นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เปิดเผยว่า สศค.ปรับลดเป้าส่งออกของไทยปีนี้เหลือขยายตัวเพียง 4.5% จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 12.8% โดยมองว่าปัญหาเศรษฐกิจยุโรปยังมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งจะส่งผลให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้ปรับลดลงจากเดิมที่เคยตั้งเป้าเติบโต 5.7% แต่โดยรวมมองว่ายังขยายตัวได้เกิน 5% ส่วนหนึ่งเนื่องจากฐานปีที่แล้วอยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวดีกว่าที่คาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตาม เป็นห่วงว่าเศรษฐกิจในปี 56 อาจจะต่ำกว่าปี 55 ส่วนหนึ่งมาจากฐานปีนี้ที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งต้องติดตามกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด ซึ่งหวังว่าการลงทุนเอกชน และการส่งออกน่าจะดีขึ้น
นายสมชัย กล่าวว่า วานนี้ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อรายงานภาพรวมเศรษฐกิจ โดยนายกรัฐมนตรีซักถามเกี่ยวกับภาพรวมเศรษฐกิจโลก ซึ่งมองว่าหลังจากศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมันอนุมัติให้ร่วมตั้งกองทุน ESM จะเป็นปัจจัยบวกในระยะสั้นเท่านั้น เพราะปัญหายุโรปยังต้องใช้เวลาในการแก้ไขอีกค่อนข้างนานทั้งเรื่องหนี้สาธารณะ ความแข็งแร่งของงบประมาณ การตั้ง Banking supervisor ดังนั้น คาดว่าเศรษฐกิจยุโรปยังคงซึมยาวไปอีก 5 ปี
ส่วนเศรษฐกิจจีนมองว่ายังคงชะลอตัว แต่สามารถใช้นโยบายที่ยืดหยุ่นได้ ดังนั้น ปีหน้าน่าจะดีขึ้น ส่วนเศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องแต่ต้องติดตามการส่งออกอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้มีการประเมินว่าสหรัฐฯ จะมีการออกมาตรการ QE3 ก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งจะส่งผลให้มีเม็ดเงินไหลแข้าไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องดูแลเงินทุนไหลเข้าออกอย่างใกล้ชิด เพราะเงินบาทอาจจะแข็งค่าในระยะสั้น ดังนั้นต้องดูแลไม่ให้แข็งไปค่ากว่าประเทศอื่นในภุมิภาค
นายสมชัย กล่าวต่อว่า กระทรวงการคลังเตรียมเดินทางไปโรดโชว์ที่นิวยอร์ค สหรัฐฯ ในระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเดินทางเข้าร่วมประชุมสมาชิกองค์การสหประชาชาติช่วงวันที่ 23-28 ก.ย.นี้ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนต่างประเทศ โดยจะมีการเชิญกองทุนต่างๆ เข้าร่วมกว่า 40 กองทุน โดยในส่วนของไทยจะมีการนำเสนอทั้งในเรื่องภาพรวมเศรษฐกิจ นโยบายต่างๆ ของรัฐบาลไทย และโอกาสการลงทุนในไทยของนักลงทุนต่างประเทศ