ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0 - 0.25 % ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ (13 ก.ย.) พร้อมขยายระยะเวลาการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษออกไปจนถึงกลางปี 2558 จากเดิมที่กำหนดไว้ถึงช่วงกลางปี 2557 นอกจากนี้ เฟดยังได้ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 (QE3) ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน
แถลงการณ์ภายหลังการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ระบุว่า "จากข้อมูลที่ได้รับนับตั้งแต่การประชุมเอฟโอเอ็มซีเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมาพบว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงขยายตัว 'ปานกลาง' แต่อัตราการขยายตัวด้านการจ้างงานชะลอตัวลง และอัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับสูง การขยายตัวทางเศรษฐกิจในระดับปัจจุบันนั้น ยังคงอ่อนแอและยังไม่สามารถฉุดอัตราว่างงานให้ลดลงได้"
"แม้ตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนยังคงเพิ่มขึ้น แต่การขยายตัวด้านการลงทุนในภาคธุรกิจชะลอตัวลง ในขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยก็ส่งสัญญาณการฟื้นตัวแค่ในระดับหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ คณะกรรมการเอฟโอเอ็มซีจึงกังวลว่า หากไม่มีการผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไปแล้ว เศรษฐกิจก็อาจจะไม่แข็งแกร่งพอที่จะพยุงตลาดแรงงานให้ฟื้นตัวต่อไปได้ นอกจากนี้ ภาวะตึงตัวในตลาดการเงินทั่วโลกยังคงทำให้เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลงด้วย" แถลงการณ์ระบุ
ทั้งนี้ คณะกรรมการเอฟโอเอ็มซีจึงมีมติให้ใช้มาตรการ QE3 ด้วยการซื้อหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน นอกจากนี้ เอฟโอเอ็มซียังมีมติให้ขยายเวลาการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษออกไปจนถึงกลางปี 2558 จากเดิมที่เคยกำหนดไว้ถึงช่วงกลางปี 2557
"การใช้มาตรการ QE3 ด้วยการซื้อ MBS ซึ่งจะช่วยให้เฟดสามารถเพิ่มการถือครองหลักทรัพย์ระยะยาวได้อีก 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในแต่ละเดือนจนถึงสิ้นปี 2555 นั้น จะช่วยลดแรงกดดันของอัตราดอกเบี้ยระยะยาว,สนับสนุนการทำธุรกรรมในตลาดกู้จำนอง และยังช่วยผ่อนคลายภาวะตึงตัวด้านการเงินในวงกว้างด้วย" แถลงการณ์ของเฟดระบุ
นอกจากนี้ เฟดยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้ ลงมาอยู่ที่ระดับ 1.7-2% จากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 1.9-2.4% สำนักข่าวซินหัวรายงาน