กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2555 ซึ่งสิ้นสุดเดือนส.ค. สูงเกินระดับ 1.16 ล้านล้านดอลลาร์ นับเป็นหลักฐานชิ้นใหม่ที่สะท้อนให้เห็นว่าสหรัฐซึ่งมีระบบเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกนั้น ยังคงเผชิญกับแรงกดดันด้านการคลังเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ นับเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันที่ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐทะยานขึ้นเหนือระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยปีงบประมาณปัจจุบันจะสิ้นสุดภายในวันที่ 30 ก.ย. 2555
ส่วนในเดือนส.ค.นั้น รัฐบาลกลางสหรัฐมียอดขาดดุลงบประมาณอยู่ที่ 1.905 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นยอดขาดดุลรายเดือนที่สูงสุดในปีงบประมาณปัจจุบัน
ก่อนหน้านี้ สำนักงานงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐ (CBO) คาดการณ์ว่า ตัวเลขหนี้สินของรัฐบาลสหรัฐจะพุ่งทะลุ 70% ของจีดีพีในสิ้นปีนี้ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และพุ่งขึ้นอย่างมากจากปี 2551 ซึ่งตัวเลขหนี้สินอยู่ที่ระดับ 40% ของจีดีพีเท่านั้น
ทั้งนี้ CBO ระบุว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัวเลขหนี้สินพุ่งสูงคือ รายได้จากการเก็บภาษีที่ลดลงและค่าใช้จ่ายของภาครัฐที่สูงขึ้น อันเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง