กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 0.6% ทำสถิติดีดัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือนและขยายตัวสูงสุดในรอบ 3 ปี เนื่องจากราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น
นอกจากนี้ ดัชนี CPI ของสหรัฐประจำเดือนส.ค.ขยายตัวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4-0.5% เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2552 ขณะที่ดัชนี CPI ขั้นพื้นฐานที่ไม่นับรวมราคาอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 0.1% เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน
ทั้งนี้ แม้ทางการสหรัฐจะรายงานดัชนี CPI ที่สูงเกินคาดในเดือนที่ผ่านมา แต่หากดูดัชนี CPI ในรอบ 12 เดือนที่สิ้นสุด ณ เดือนส.ค.ที่เพิ่มขึ้นในอัตรา 1.7% นั้นยังอยู่ต่ำกว่าที่เฟดตั้งเป้าไว้ในระดับ 2% ซึ่งจะไม่ทำให้เกิดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อมากนัก และอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณไปอย่างต่อเนื่อง
โดยเมื่อวานนี้ เฟดได้ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 (QE3) ด้วยการซื้อหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน พร้อมกับมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0 - 0.25 % โดยให้ขยายระยะเวลาการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษออกไปจนถึงกลางปี 2558 จากเดิมที่กำหนดไว้ถึงช่วงกลางปี 2557
สำหรับอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐในเดือนที่ผ่านมานั้นปรับตัวเพิ่มขึ้นจากแรงหนุนของราคาน้ำมันที่ทะยานขึ้น 9.0% หลังขยายตัว 0.3% ในเดือนก.ค. โดยราคาน้ำมันเบนซินที่สถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้น 28 เซนต์
ด้านราคาอาหารขยับขึ้น 0.2% ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าราคาอาหารจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปลายปีนี้จากผลกระทบของภัยแล้งที่ส่งผลให้ราคาธัญพืชพุ่งสูงขึ้น