ศาลอาญามีคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายอมเรศ ศิลาอ่อน อดีตประธานคณะกรรมการองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน(ปรส.) อายุ 79 ปี, นายวิชรัตน์ วิจิตรวาทการอายุ อดีตเลขาธิการ ปรส.อายุ 65 ปี กับพวกรวม 6 คน เป็นจำเลยฐานกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากระหว่างวันที่ 2 มิ.ย.-1 ต.ค.41 ต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1 กับพวกได้วางแผนแบ่งหน้าที่กัน โดยจำเลยที่ 1 ในฐานะประธาน ปรส.ปฏิบัติหน้าที่ของ ปรส.ไม่โปร่งใสและมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และจำเลยที่ 2 อดีตเลขาธิการ ปรส. โดย ปรส.เข้าทำสัญญาซื้อขายเพื่อประโยชน์ทางภาษีอากร การกระทำของจำเลยทั้งหมดก่อให้เกิดความเสียหายแก่กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง และ ปรส.กรณีไม่เรียกเก็บเงินงวดแรกในการขายสินทรัพย์ให้กับบริษัท เลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้งส์ อิงค์ จำเลยที่ 3 เมื่อปี 2541 จำนวน 2,304 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1 และ 2 มีความผิดจริงตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 ให้ลงโทษจำคุกคนละ 2 ปี และปรับคนละ 20,000 บาท แต่เนื่องจากจำเลยที่ 1 เคยเป็นอดีต รมว.พาณิชย์ และจำเลยที่ 2 เคยดำรงตำแหน่งเป็นอดีตประธานอนุกรรมการกลั่นกรองวางแผนการฟื้นฟูให้กับสถาบันการเงิน ซึ่งถือเป็นการทำคุณให้กับประเทศชาติ ประกอบจำเลยทั้ง 2 คนมีอายุมากแล้วจึงเห็นสมควรให้กลับตัวกลับใจ โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้เป็นเวลา 3 ปี และให้คุมประพฤติจำเลยเป็นเวลา 1 ปี โดยต้องรายงานตัว 3 ครั้งต่อ 1 เดือน พร้อมบำเพ็ญประโยชน์เป็นเวลา 24 ชั่วโมง ส่วนจำเลยที่ 3 ถึง 6 ศาลเห็นว่าไม่มีพยาน หลักฐานโจทก์ไม่มีน้ำหนักเพียงพอ จึงพิพากษายกฟ้อง