คณะกรรมการกำกับกิจการไฟฟ้าของรัฐบาลจีน (SERC) ได้เปิดเผยมาตรฐานสำหรับการประหยัดพลังงานและการลดการใช้พลังงานของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าที่ปล่อยคาร์บอนต่ำในจีน
กฎเกณฑ์ดังกล่าวจะมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นไป โดยกำหนดเป็นมาตรฐานการควบคุมการสูญเสียพลังงานของบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าและต้นทุนการจ่ายกระแสไฟในแง่ของการใช้ถ่านหินสำหรับการผลิตไฟฟ้า การใช้ถ่านหินในการจ่ายกระแสไฟ และการสูญเสียพลังงานโดยรวมในเส้นทางการจ่ายกระแสไฟฟ้า
ณ สิ้นปี 2554 ปริมาณการใช้ถ่านหินในการจัดหาพลังงานไฟฟ้าในจีนได้ลดลงมาอยู่ที่ 329 กรัม/กิโลวัตต์-ชั่วโมง จาก 392 กรัม/กิโลวัตต์-ชั่วโมง ในปี 2553 แต่ก็ยังคงเป็นตัวเลขที่สูงกว่าระดับ 300 กรัม/กิโลวัตต์-ชั่วโมง ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น และ เยอรมนี
-- นายหลิว ฉี รองผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานแห่งชาติจีน (NEA) กล่าวว่า จีนจำเป็นต้องเร่งปฏิรูประบบพลังด้วยการให้ความสำคัญกับการทำให้ราคาพลังงานเป็นไปตามกลไกตลาด เพื่อเพิ่มปริมาณการใช้พลังงานที่ไม่ได้มาจากฟอสซิลเป็น 15% ของปริมาณพลังงานที่ใช้ทั้งหมดในจีนภายในปี 2563
นายหลิวระบุว่า จีนจะจัดตั้งระบบราคาไฟฟ้า ด้วยราคาการผลิตและการบริโภคพลังงานที่อิงกับตลาด และราคาการจ่ายไฟฟ้าที่ควบคุมโดยรัฐบาล
นอกจากนี้ จีนจะส่งเสริมการก่อสร้างโครงการสาธิตสำหรับพลังงานใหม่ โรงไฟฟ้าขนาดเล็ก และจะส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อให้เป็นแหล่งพลังงานใหญ่ที่สุดในหลายพื้นที่ของจีน เขากล่าว
นอกจากนี้ จีนจะให้ความสำคัญกับการนำเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์มาใช้ในอาคารสาธารณะ โรงงานอุตสาหกรรมและโรงงานพาณิชย์ อาคารที่อยู่อาศัย และนิคมอุตสาหกรรม โดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มศักยภาพการจ่ายกระแสไฟจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีการติดตั้ง สู่ระดับ 10 ล้านกิโลวัตต์ภายในปี 2558 สำนักข่าวซินหัวรายงาน