ผู้บริหารธุรกิจญี่ปุ่นไม่เห็นด้วยกับนโยบายเลิกใช้นิวเคลียร์ของรัฐบาล

นักธุรกิจชั้นนำของญี่ปุ่นไม่เห็นด้วยกับเป้าหมายของรัฐบาลที่จะยกเลิกการใช้นิวเคลียร์อย่างถาวร โดยเตือนว่า นโยบายดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง

สถาบันธุรกิจรายใหญ่ 3 แห่งของญี่ปุ่น ซึ่งประกอบด้วยสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มล็อบบี้ยิสต์ภาคธุรกิจที่มีอิทธิพลมากที่สุดในญี่ปุ่น กล่าวเตือนในงานแถลงข่าวร่วมว่า ธุรกิจญี่ปุ่นอาจจะประสบกับความยากลำบากในการรักษาอัตราการจ้างงานไว้ในประเทศอันเนื่องมาจากนโยบายเลิกใช้พลังงานนิวเคลียร์ พร้อมกับเสริมว่า เป้าหมายดังกล่าวถูกกำหนดขึ้นโดยที่ไม่ได้มีการศึกษาอย่างละเอียด

นายฮิโรยามา โยเนคูระ ประธานสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น กล่าวว่า “รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลไม่รับฟังเสียงของพวกเรา เราเรียกร้องให้รัฐบาลกำหนดกลยุทธ์ความรับผิดชอบด้านพลังงานขึ้นมาใหม่จากศูนย์"

ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ญี่ปุ่นจะเลิกใช้พลังงานนิวเคลียร์อย่างถาวรในช่วงทศวรรษที่ 2030 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนนโยบายพลังงานอย่างสิ้นเชิงหลังเกิดวิกฤตนิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ไดอิจิ เมื่อเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมาอันเนื่องมาจากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิ

นายโยเนคูระ ส่งสัญญาณว่าเขาอาจจะลาออกจากตำแหน่งสภาที่ปรึกษาแห่งชาติด้านกลยุทธ์ของรัฐบาลในฐานะสมาชิกจากภาคเอกชน โดยระบุว่า เขาอาจพิจารณาองค์ประกอบหลายประการ เมื่อถูกถามว่าเขาจะยังคงอยู่ในตำแหน่งต่อไปหรือไม่

ด้านนายทาเดชิ โอคามูระ ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นกล่าวว่า เขาไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับแผนของรัฐบาล เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนว่าจะช่วยบรรเทาภาระของประชาชนหรือทำให้เชื่อได้ว่าจะช่วยยกระดับการประหยัดพลังงาน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน