นายเจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์ กล่าววานนี้ว่าการตัดสินใจของเฟดในการซื้อพันธบัตรเพิ่มเติมและดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินอื่นๆจะทำให้มีความมีโอกาสที่เงินเฟ้อจะพุ่งสูงขึ้น
ในการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0 - 0.25 % ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 13 ก.ย. พร้อมขยายระยะเวลาการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษออกไปจนถึงกลางปี 2558 จากเดิมที่กำหนดไว้ถึงช่วงกลางปี 2557 นอกจากนี้ เฟดยังได้ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 (QE3) ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน
ประธานเฟดริชมอนด์ระบุว่ามาตรการกระตุ้นทางการเงินเพิ่มเติมจะก่อความเสี่ยงที่จะทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการคาดการณ์เงินเฟ้อและจะบั่นทอนความน่าเชื่อถือของเฟด โดยกล่าวว่าเงินเฟ้ออยู่ใกล้เคียงเป้าหมายของเฟดที่ 2% ต่อปี
นายแลคเกอร์เป็นสมาชิกเพียงรายเดียวในคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ที่คัดค้านการตัดสินใจล่าสุดของเฟด
อย่างไรก็ตาม นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก มีความเห็นสวนทางกับนายแลคเกอร์ โดยนายดัดลีย์ได้กล่าวเมื่อวานนี้เช่นกันว่าเขาสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เฟดประกาศออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมระบุว่าเฟดสามารถดำเนินการเพิ่มเติมได้ หากเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการช่วยหนุนเศรษฐกิจสหรัฐ
ประธานเฟดนิวยอร์กกล่าวว่าการตัดสินใจผ่อนคลายนโยบายการเงินดังกล่าวสอดคล้องอย่างเต็มที่กับขอบเขตหน้าที่ตามกฎหมายของเฟดในการส่งเสริมการจ้างงานอย่างยั่งยืนในระดับสูงสุด ขณะที่คงรักษาเสถียรภาพด้านราคา