สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 7.8% สู่ระดับ 4.82 ล้านยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบกว่า 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2553 และเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์กว่าจะอยู่ที่ระดับ 4.50-4.55 ล้านยูนิต
ส่วนราคากลางของบ้านมือสองปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 187,400 ดอลลาร์ในเดือนส.ค. หรือเพิ่มขึ้น 9.5% จากปีที่แล้ว
ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐส่งสัญญาณการฟื้นตัว และยังเป็นข้อมูลที่สอดคล้องกับทิศทางการรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนส.ค.ขยับขึ้น 2.3% สู่ระดับ 750,000 ยูนิต ขณะที่ตัวเลขการอนุญาตสร้างบ้านเดือนส.ค. ลดลง 1.0% มาอยู่ที่ระดับ 803,000 ยูนิต แต่ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 790,000-796,000 ยูนิต
ทั้งนี้ แม้ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านขยับขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับราว 760,000-765,000 ยูนิต แต่อุตสาหกรรมการสร้างบ้านของสหรัฐยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น และคาดว่าจะช่วยหนุนการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) และตัวเลขจ้างงานในปีนี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ