นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวต่อสมาชิกคณะกรรมาธิการการเงินของวุฒิสภาสหรัฐเมื่อวานนี้ โดยเรียกร้องให้สมาชิกสภานิติบัญญัติหาแนวทางที่ยั่งยืนในระยะยาวในการแก้ไขปัญหาทางการคลังของสหรัฐ
นายเบอร์นันเก้ระบุว่าสภาคองเกรสสามารถหนุนเศรษฐกิจด้วยการกำหนดนโยบายด้านภาษีและงบประมาณที่ไม่บั่นทอนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เปราะบางของประเทศ พร้อมกับพยายามลดยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางอย่างค่อยเป็นค่อยไป
บรรดาวุฒิสมาชิกกล่าวว่านายเบอร์นันเก้ได้เน้นย้ำถึงข้อจำกัดของเฟดในการหนุนเศรษฐกิจ หากสมาชิกสภานิติบัญญัติไม่สามารถสกัดกั้นสถานการณ์ที่มาตรการปรับขึ้นภาษีและลดรายจ่ายจะมีผลบังคับใช้พร้อมกันในช่วงต้นปี 2556 หรือที่เรียกว่าหน้าผาทางการคลัง (fiscal cliff)
อย่างไรก็ตาม ประธานเฟดได้แสดงมุมมองบวกเกี่ยวกับตลาดที่อยู่อาศัย ขณะที่ข้อมูลล่าสุดเมื่อคืนนี้จากสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) ระบุว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 7.8% สู่ระดับ 4.82 ล้านยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบกว่า 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2553 และเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์กว่าจะอยู่ที่ระดับ 4.50-4.55 ล้านยูนิต
ทางด้านมูดี้ส์ อะนาลิติกส์ ระบุว่ามีความเป็นไปได้ 15% ที่สหรัฐจะเผชิญภาวะหน้าผาทางการคลัง หรือ fiscal cliff โดยคาดว่าในกรณีที่เกิด fiscal cliff ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จะร่วงลงต่ำกว่าสถานการณ์ที่มีการขยายระยะเวลานโยบายในปัจจุบันออกไปในปี 2556 อยู่ 2.8% ขณะที่จะเกิดภาวะถดถอยครั้งใหม่ และอัตราว่างงานจะพุ่งแตะ 9.2% ภายในสิ้นปี