ทั้งนี้ ญี่ปุ่นขาดดุลการค้าเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยตัวเลขขาดดุลลดลง 0.3% จากปีก่อน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากยอดการนำเข้าที่ลดลง อันเนื่องมาจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลง โดยยอดนำเข้าลดลง 5.4% แตะระดับ 5.8000 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดในรอบเกือบ 3 ปีและเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 2 เดือน ขณะที่ยอดส่งออกเดือนส.ค.หดตัวลง 5.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี มาอยู่ที่ระดับ 5.0459 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 3 เดือน
รายงานของกระทรวงระบุว่า ยอดส่งออกสินค้าไปยังกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู) ร่วงลง 22.9% แตะที่ 4.779 แสนล้านเยน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาเกือบ 1 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดส่งออกการส่งออกไปยังอิตาลีและอังกฤษที่ร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากปัญหาด้านการเงินและการคลังในยุโรปได้สั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนและภาคธุรกิจ
ประเทศในกลุ่มที่กำลังพัฒนาในเอเชียได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้ยุโรปโดยผ่านทางช่องทางการค้าเป็นส่วนใหญ่ โดยยอดส่งออกจากประเทศเหล่านี้ไปยังยุโรปปรับตัวลดลง ซึ่งส่งผลให้ยอดส่งออกจากญี่ปุ่นไปยังประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียชะลอตัวลงด้วย เนื่องจากบริษัทผู้ผลิตหลายแห่งในประเทศเหล่านี้ต้องใช้วัสดุที่จัดหาโดยญี่ปุ่น
ทั้งนี้ ยอดส่งออกไปยังจีน ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่สุดของญี่ปุ่น ลดลง 9.9% แตะระดับ 9.663 แสนล้านเยน และยอดส่งออกไปยังประเทศต่างๆในเอเชียรวมกันลดลง 6.7% มาอยู่ที่ระดับ 2.8397 ล้านล้านเยน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน