นายชาตรี สหเวชชภัณฑ์ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย หรือ AFET เปิดเผยว่า แนวโน้มราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ใน AFET มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เมื่อกลางเดือนสิงหาคมเป็นต้นมา นับเป็นการส่งสัญญาณในเชิงบวกให้กับการซื้อขายล่วงหน้า RSS3
"นับจากนี้ คาดว่าการซื้อขายยางจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี ตลาดฯมีแผนที่จะทำตลาดเชิงรุกให้กับนักลงทุนและผู้เกี่ยวข้องกับสินค้าให้เข้าถึงมากขึ้น เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสที่จะเข้ามาลงทุนในการสร้างผลตอบแทนอีกรูปแบบหนึ่ง"นายชาตรี กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา การซื้อขายล่วงหน้าใน AFET เป็นไปอย่างคึกคัก โดยการปรับตัวของราคาได้รับอิทธิพลจากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือ QE3 ในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และมาตราการจำกัดปริมาณส่งออกยางพาราทุกชนิดในทุกบริษัทลง 10% โดยใช้ฐานการส่งออกปี 54 (ปริมาณการส่งออก 3,414,717,344 ล้านตัน) ทำให้มียอดสั่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามามาก ในขณะเดียวกันพ่อค้ายางเร่งรับซื้อผลผลิตจากชาวสวน หนุนให้ราคายางในตลาดจริงปรับตัวเพิ่มขึ้น
อีกทั้ง คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบอนุมัติเงิน 3 หมื่นล้านบาท เพื่อแทรกแซงราคายางในโครงการพัฒนาสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง และยังให้เงินกู้ดอกเบี้ยวต่ำแก่ผู้ประกอบการอีกถึง 1.5 ล้านบาท โดยจะเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ซึ่งผลของปัจจัยดังกล่าวทำให้ราคายางล่วงหน้าใน AFET ปรับตัวสูงขึ้นทันที ซึ่งสอดคล้องกับราคาในตลาดจริงที่น่าจะขยับตัวและคาดว่าในช่วงเวลานี้ปริมาณการซื้อขายยางจะมีการปรับตัวสอดรับกับปัจจัยในขณะนี้
โดยราคาล่วงหน้ายางแผ่นรมควันชั้น 3 (RSS3) มีการปรับตัวพุ่งสูงขึ้นเหนือ 100 บาท นับตั้งแต่ต้นสัปดาห์เป็นต้นมา และล่าสุด 19 ก.ย. ราคา RSS3 เดือนส่งมอบเมษายน 56 แตะระดับ 103.0 บาท/กก. ราคาปรับเพิ่มขึ้นจากวันก่อนถึง 2.15 บาท/กก. ราคาซื้อขายล่วงหน้า อยู่ในช่วง 98.50 -103.0 บาท/กก. ซึ่งถือว่าราคาได้กลับมาสดใสอีกครั้ง