กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 ก.ย. ลดลง 3,000 ราย มาอยู่ที่ 382,000 ราย ซึ่งมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการในสัปดาห์ที่แล้วจะอยู่ที่ 375,000 ราย แสดงให้เห็นว่าการฟื้นตัวของตลาดแรงงานยังไม่ยั่งยืน
ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 ก.ย. ถูกปรับทบทวนขึ้นเป็น 385,000 ราย จากระดับ 382,000 รายในรายงานก่อนหน้านี้
สำหรับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์นั้น ทางกระทรวงเผยว่า เพิ่มขึ้น 2,000 ราย มาอยู่ที่ 377,750 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. โดยข้อมูลนี้ถูกมองว่าสามารถวัดแนวโน้มตลาดแรงงานได้ดีกว่า เพราะมีความผันผวนน้อยกว่าตัวเลขรายสัปดาห์
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อต้นเดือนนี้ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนส.ค.ของสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 96,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 125,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานเดือนส.ค.นั้น แม้ว่าลดลงสู่ระดับ 8.1% จากระดับ 8.3% ในเดือนก.ค. แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก โดยอัตราว่างงานอยู่เหนือระดับ 8% มาเป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว
ตลาดแรงงานที่ซบเซาเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐตัดสินใจประกาศใช้มาตรการ QE3 ด้วยการซื้อหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน จนกว่าแนวโน้มตลาดแรงงานจะฟื้นตัวดีขึ้น