นายเกอร์ฮาร์ด ชูเบิร์ท ผู้อำนวยการฝ่ายโลหะมีค่าของเอมิเรทส์ เอ็นบีดี ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของดูไบ ระบุในบทวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์โลกรายสัปดาห์ว่า การปรับตัวขึ้นของราคาทองได้ยุติลงใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
“ตลาดทองคำปรับฐานในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว โดยมีการซื้อขายภายในช่วงแคบๆ" นายชูเบิร์ทกล่าว ราคาทองปิดตลาดวันศุกร์ที่ 1,772.00 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 2.0 ดอลลาร์จากสัปดาห์ก่อน
สำหรับในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้า นายชูเบิร์ทคาดว่าตลาดทองคำจะยังคงคึกคัก “ตลาดดูเหมือนจะยังคงมีแนวโน้มขาขึ้นอย่างมาก แต่การเพิ่มสัญญาซื้อจากนักลงทุนระยะยาวและนักเก็งกำไรระยะสั้นทำให้เรามีความระมัดระวังในระยะใกล้"
ราคาทองที่เพิ่มขึ้นมักจะสะท้อนความวิตกเกี่ยวกับความไร้เสถียรภาพทางการเมืองทั่วโลก เนื่องจากนักลงทุนจะเข้าซื้อทองในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย เพื่อปกป้องเงินทุนของพวกเขา ส่วนความไร้เสถียรภาพในปัจจุบัน ได้แก่ ความเสี่ยงเกี่ยวกับความรุนแรงของการสไตร์คที่เหมืองทองในแอฟริกาใต้ การล่มสลายของยูโรโซนที่มีสมาชิก 17 ประเทศ สงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อในซีเรีย และภัยคุกคามของสงครามระหว่างอิสราเอลและอิหร่านเกี่ยวกับข้อพิพาทด้านแผนการนิวเคลียร์ของอิหร่าน
“ดูเหมือนว่าทุกคนที่มีเหตุผลในการซื้อก็ได้ซื้อไว้แล้ว และคำถามก็คือใครหรือสิ่งใดจะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เริ่มมีการเข้าซื้อต่อเนื่องมากขึ้นในขณะนี้" นายชูเบิร์ทกล่าวเสริม
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นับแต่เกิดวิกฤตการเงินโลกในปี 2551 ซึ่งได้กระตุ้นให้เกิดวิกฤตหนี้ยูโรโซนในปัจจุบันนั้น ราคาทองได้ทะยานขึ้น 142%