นิตยสาร Der Spiegel ของเยอรมนีรายงานว่า รัฐบาลของประเทศสมาชิกยูโรโซนวางแผนที่จะเพิ่มเงินทุนของกองทุนรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) สู่ระดับ 2 ล้านล้านยูโร เพื่อช่วยเหลือประเทศสมาชิกที่ประสบปัญหา
--ศูนย์ศึกษาว่าด้วยจีนในเศรษฐกิจโลก (CCWE) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวน้อยลงในช่วงไตรมาส 4 หลังจากรัฐบาลประกาศใช้มาตรการต่างๆในการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม CCWE เตือนว่าความคืบหน้าทางเศรษฐกิจในอนาคตนั้น ยังคงไม่แน่นอน
--รายงานการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ประจำวันที่ 8-9 ส.ค.ซึ่งมีการเปิดเผยในวันนี้ระบุว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายบางรายของบีโอเจได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่รุนแรงของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในยุโรปที่มีต่อการค้าทั่วโลก ขณะที่เจ้าหน้าที่อีกหลายคนได้แสดงความคิดเห็นว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนกำลังชะลอตัวลง
--เอกสารซึ่งเปิดเผยโดยคณะกรรมการกลางจีนจากพรรคคอมมิวนิสต์และรัฐบาลกลางจีนระบุว่า จีนมีเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นเป็นชาติมหาอำนาจทางด้านเทคโนโลยีของโลกภายในปี 2592 และจะพยายามอย่างยิ่งที่จะรุดหน้าขึ้นเป็นประเทศแนวหน้าด้านการพัฒนานวัตกรรมและวิทยาศาสตร์
--สมาคมเศรษฐกิจญี่ปุ่น-จีนได้ตัดสินใจในวันนี้ที่จะเลื่อนแผนการส่งคณะผู้แทนภาคธุรกิจญี่ปุนไปยังจีนตั้งแต่วันพรุ่งนี้ เนื่องจากเป็นเรื่องยากที่จะจัดการประชุมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลจีน ท่ามกลางความสัมพันธ์ทวิภาคีที่ร้าวฉานจากกรณีข้อพิพาทเรื่องดินแอนในทะเลจีนตะวันออก
--บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปเปิดเผยในวันนี้ว่าบริษัทจะเปิดตัวรถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ 21 รุ่นในตลาดโลกภายในสิ้นปี 2558 โดยตั้งเป้ายอดขายทั่วโลกไว้ที่ 1 ล้านคันต่อปีเป็นอย่างน้อยที่สุดในช่วงตั้งแต่ปี 2556-2558 สำหรับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน-ไฟฟ้าดังกล่าว
--หนังสือพิมพ์จาการ์ตา โพสต์ของอินโดนีเซียรายงานโดยอ้างคำกล่าวของนายอากัส มาร์โตวาร์โดโจ รัฐมนตรีคลังอินโดนีเซียที่ว่า รัฐบาลอินโดนีเซียกำลังเผชิญกับความยากลำบากในการเพิ่มรายได้จากการจัดเก็บภาษีสู่เป้าที่ 13.5% เนื่องจากคาดว่าความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกจะยังคงมีผลกระทบต่อการส่งออกของประเทศอย่างต่อเนื่อง
--สำนักงานสถิติแห่งชาติของอิตาลี (Istat) เปิดเผยว่า อิตาลีขาดดุลการค้ากับประเทศนอกกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) เป็นมูลค่า 973 ล้านยูโรในเดือนส.ค. หลังจากที่เกินดุลการค้า 1.836 พันล้านยูโรในเดือนก.ค.
--นายบ่า ชูซ่ง นักวิจัยประจำศูนย์วิจัยพัฒนา สังกัดรัฐบาลจีนเปิดเผยว่า มาตรการผ่อนคลายนโยบายของจีนจะไม่ผ่อนคลายมากเท่ากับนโยบายที่ได้มีการนำมาใช้ในปี 2551