(เพิ่มเติม) พาณิชย์เผยส.ค.55 ส่งออกลด 6.95% นำเข้าลด 8.78% ขาดดุล 1.02 พันล้านดอลล์

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 25, 2012 14:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ เปิดเผย ภาวะการค้าต่างประเทศของไทยในเดือน ส.ค.55 การส่งออกมีมูลค่า 19,750 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวลดลง 6.95% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 20,770 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวลดลง 8.78% ส่งผลให้ขาดดุลการค้า 1,020 ล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ส่งผลให้ภาวะการค้าต่างประเทศในช่วง 8 เดือนของปีนี้(ม.ค.-ส.ค.55) การส่งออกมีมูลค่ารวม 151,559 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวลดลง 1.31% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนการนำเข้ามีมูลค่ารวม 164,666 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 7.63% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเช่นกัน ขาดดุลการค้าทั้งสิ้น 13,107 ล้านเหรียญสหรัฐ

รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า สาเหตุที่ยอดส่งออกในเดือน ส.ค.55 ปรับตัวลดลงเนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปที่ยังลุกลามบานปลายไปทั่วภูมิภาค แต่ที่ยังสามารถส่งออกได้ถึง 19,750 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีแล้วหากเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีมูลค่าราว 14,000-15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

สำหรับการส่งออกสินค้าในเดือน ส.ค.55 หมวดสินค้าเกษตร/อุตสาหกรรมเกษตร และหมวดสินค้าอื่นๆ ลดลง โดยหมวดสินค้าเกษตร/อุตสาหกรรมเกษตร ภาพรวมลดลง 18.6 % สินค้าส่งออกลดลง ได้แก่ ข้าว(-38.7%) ยางพารา(-44.1%) กุ้งแช่แข็งและแปรรูป(-32.3%) ผักและผลไม้(-2.7%) ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป(-2.3%) สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง(+23.8%) อาหารทะเลแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป (ไม่รวมกุ้ง)(+12.5%) น้ำตาล(+21.4%)

หมวดสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญ ภาพรวมเพิ่มขึ้น 1.1% โดย สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ยานยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ(+6.4%) วัสดุก่อสร้าง(+20.9%) อัญมณีและเครื่องประดับ(+90.4%) สิ่งพิมพ์ กระดาษและบรรจุภัณฑ์(+3.9%) เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์(+5.1%) อาหารสัตว์เลี้ยง(+7.7%) สินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์(-15.4%) เครื่องใช้ไฟฟ้า(-6%) เม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติก(-8%) สิ่งทอ(-14.8%) อัญมณี(ไม่รวมทองคำ)(-4.9%) ผลิตภัณฑ์ยาง(-8.5%) เครื่องเดินทาง เครื่องหนังและรองเท้า(-16.3%) เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน(-2.4%)

หมวดสินค้าอื่นๆ ภาพรวมลดลง 19.7%

สำหรับการส่งออกเป็นรายตลาด ขยายตัวลดลงในทุกตลาด ยกเว้นตลาดอื่นๆ โดยตลาดหลักภาพรวมลดลง 13.3 % โดย ญี่ปุ่น(-12%) สหรัฐอเมริกา(-4.8%) สหภาพยุโรปสมาชิกเดิม 15 ประเทศ(-23.1%), ตลาดศักยภาพสูง ภาพรวมลดลง 8.8 % โดยตลาดที่ลดลง ได้แก่ อาเซียน(9)(-12.3%) (โดยอาเซียนเดิม(5)(-16.8%)) จีน(-12.9%) เอเชียใต้(8)(-8.6%) อินเดีย(-0.7%) ไต้หวัน(-19%) ตลาดที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ อินโดจีนและพม่า(+0.1%) ฮ่องกง(+17.1%) เกาหลีใต้(+4.6%)

ขณะที่ตลาดศักยภาพระดับรองภาพรวมลดลง 3.9 % โดยตลาดที่ลดลง ได้แก่ ตะวันออกกลาง(-12.6%) ทวีปแอฟริกา(-20.7%) สหภาพยุโรปสมาชิกใหม่ 12 ประเทศ(-19.2%) รัสเซียและCIS(-0.9%) แคนาดา(-16.5%) ตลาดที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ทวีปออสเตรเลีย(+18.4%) ลาตินอเมริกา(+7%) และตลาดอื่น ๆ ภาพรวมเพิ่มขึ้น 74.8 % โดยสวิตเซอร์แลนด์(+167%)

ขณะที่การนำเข้าในเดือน ส.ค.55 ลดลง ในหมวดเชื้อเพลิง(-17.6%) (ประเภทน้ำมันดิบ(-22.4%)) หมวดวัตถุดิบ/กึ่งสำเร็จรูป(-16.8%) (ประเภทเคมีภัณฑ์(-5.5%) แผงวงจรไฟฟ้า(-22.2%)) หมวดอุปโภค/บริโภค(-1.2%) หมวดที่นำเข้าเพิ่มขึ้น ได้แก่ หมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง(+37.9%) (ประเภทส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์(+46.2%) และรถยนต์นั่ง(+39.6%))

อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้ (ก.ย.-ธ.ค.55) จะมียอดส่งออกสูงขึ้นแตะที่ระดับ 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ/เดือน เนื่องจากเป็นช่วงการระบายสินค้าหลักและการสต็อกสินค้าสำหรับการเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่ และหากยังสามารถรักษายอดส่งออกให้อยู่ในระดับเดียวกันกับเดือน ส.ค.55 คาดว่ายอดส่งออกทั้งปีจะขยายตัวอยู่ที่ 4-5%

นายภูมิ กล่าวว่า ในวันที่ 1 ต.ค.นี้กระทรวงฯ จะมีการประชุมคณะทำงานภายในเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ในการผลักดันการส่งออกในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้และภาวะการส่งออกในปีหน้าด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ