นายคริสทอส สไตคูราส รัฐมนตรีคลังของกรีซกล่าวว่า กรีซควรเลือกใช้ช่องทางกู้เงินเพิ่มจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เพื่ออุดช่องว่างทางการเงินในปีต่อๆไป ถ้าหากมาตรการรัดเข็มขัดและการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจที่กำลังดำเนินการอยู่ ไม่บรรลุเป้าหมายตามระยะเวลาที่กำหนด
นายสไตคูราสระบุในแถลงการณ์ของกระทรวงเพื่อตอบคำถามของรองนายกรัฐมนตรีกรีซว่า “ความเป็นไปได้ในการการต่ออายุเงินกู้ยืมระยะยาวเมื่อครบกำหนด (rollover) ควรถูกนำมาพิจารณาเพื่อชดเชยช่องว่างด้านงบประมาณ เมื่อพิจารณาจากการที่อีซีบีถือครองพันธบัตรกรีซในวงเงิน 2.8 พันล้านยูโรซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในระหว่างปี 2556-2559" เขากล่าว
นอกจากนิ้ นายสไตคูราสยังระบุว่า ในกรณีที่การปฏิรูปไม่บรรลุเป้าหมายของการปรับตัวเลขงบประมาณประจำปีหรือโครงการแปรรูปรัฐวิสาหกิจตามข้อตกลงในการรับความช่วยเหลือจากเจ้าหนี้ต่างประเทศในปี 2553 กรีซควรจะใช้ทางเลือกอื่นด้วยเช่นกัน เช่น การออกตราสารหนี้ระยะสั้น
ทั้งนี้ แผนการสร้างเสถียรภาพและปฏิรูปของกรีซซึ่งได้รับความช่วยเหลือในรูปเงินกู้จากประเทศยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เป็นวงเงินหลายพันล้านยูโร มีจุดประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงการล้มละลายของกรีซและการถอนตัวออกจากยูโรโซน สำนักข่าวซินหัวรายงาน