นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงที่กรณีชาวนานำข้าวเข้าโครงการรับจำนำแต่ไม่ได้รับเงินว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการลงพื้นที่สำรวจปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว โดยคาดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นอาจอยู่ที่ขั้นตอนก่อนออกใบประทวน โดยมีชาวนานำข้าวเปลือกไปฝากที่ท่าข้าวหรือโรงสีนอกเขตจึงไม่ได้รับใบประทวน ซึ่งขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ลงไปดูแลเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด
"ยืนยันถ้าชาวนารายใดมีใบประทวนแล้ว สามารถรับเงินได้ที่ ธ.ก.ส.แน่นอน เพราะเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ได้เห็นชอบให้เพิ่มปริมาณการจำนำข้าวเปลือกนาปรังรอบพิเศษอีก 3.3 ล้านตันแล้ว ส่งผลให้ รัฐบาลได้รับจำนำข้าวนาปรังรอบพิเศษเพิ่มขึ้นเป็น 5.5 ล้านตัน เพียงพอต่อผลผลิตชาวนาทั้งหมด" ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าว
ด้านนางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า หลังจากได้ส่งสายตรวจเฉพาะกิจลงไปตรวจสอบจุดรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังพิเศษปี 55 ที่ท่าข้าวเฮียตี๋เจ๊วิไล อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นจุดรับจำนำนอกพื้นที่ของ บริษัท ยี่สิบไพบูลย์ จำกัด ตามที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากเกษตรกร ผ่านสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่ามีการสวมสิทธิโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังพิเศษปี 55 จริง โดยท่าข้าวมีการนำข้าวเปลือกของตนเอง เข้าไปสวมสิทธิข้าวเปลือกของเกษตรกร 60 ราย และนำไปจำนำต่อ ทำให้ท่าข้าวฯ ได้รับรับเงินส่วนต่างจำนวนมาก ทั้งที่ท่าข้าวไม่มีสิทธิทำได้
อย่างไรก็ตาม ท่าข้าวดังกล่าวได้ยอมรับสารภาพ กรมฯ จึงแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.บางขนาก จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมกับแจ้งให้จังหวัดปิดจุดรับจำนำนอกพื้นที่ดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ยังพบว่าท่าข้าวดังกล่าวกระทำผิดกฎหมายด้วยการไม่แสดงราคารับซื้อข้าวเปลือกซึ่งถือเป็นการเอาเปรียบเกษตรกร จึงมีการดำเนินคดีเพิ่มเติมในข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อสินค้าเกษตรอีกข้อหาหนึ่ง
"หากเกษตรกรถูกเอารัดเอาเปรียบจากการซื้อขายสินค้าเกษตร หรือพบการสวมสิทธิเกษตรกร หรือการทุจริตในรูปแบบต่างๆ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วยกรมการค้าภายใน 1569 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่สำนักงานการค้าภายในจังหวัดทั่วประเทศ จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบ ถ้าพบการกระทำผิดจริงจะดำเนินการตามกฎหมายโดยเด็ดขาด" นางวัชรีกล่าว