นางสยุมรัตน์ มาระเนตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารยูโอบี (UOB) กล่าวว่า กลุ่มธนาคารยูโอบีเล็งเห็นความสำคัญของภาคธุรกิจเอสเอ็มอีในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศและของทั้งภูมิภาค ด้วยความเชื่อมั่นที่มีต่อศักยภาพของภาคธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารจึงวางเป้าหมายการเติบโตสินเชื่อเอสเอ็มอีของกลุ่มธนาคารใน 4 ประเทศที่เป็นตลาดหลักของเครือข่ายธนาคารในภูมิภาค ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ตั้งเป้าเติบโตสินเชื่อเอสเอ็มอีทั่วภูมิภาคเพิ่มเป็น 2 เท่าภายใน 3 ปี
นายวิกเตอร์ ลี UOB Group Head of Business Banking กลุ่มธนาคารยูโอบี ในประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า กลุ่มธนาคารยูโอบีลงทุนกว่า 375 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเครื่องมือในการสมัครสินเชื่อ ช่วยลดขั้นตอนการขออนุมัติสินเชื่อและเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อม
และปัจจัยหลักที่เอื้อต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาจากการใช้จ่ายด้านอุปโภคบริโภคภายในประเทศของภาคเอกชน ตลอดจนการใช้จ่ายและลงทุนจากภาครัฐ ในภาวะที่อัตราดอกเบี้ย ของการกู้ยืมสินเชื่ออยู่ในระดับต่ำอย่างเช่นปัจจุบัน นับว่าเป็นโอกาสดีสำหรับธุรกิจขนาดย่อมที่จะใช้สินเชื่อเพื่อขยายตลาดใหม่ๆ สร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจ หรือใช้สินเชื่อเพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านเงินทุนหมุนเวียน
"ธุรกิจเอสเอ็มอีในปัจจุบัน มีความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมจำนวนมากเริ่มสร้างโรงงานและสำนักงานเป็นของตนเอง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจขนาดย่อมปัจจุบันมีการวางแผนธุรกิจ มีโครงสร้างเงินทุนและความแข็งแกร่งทางการเงินมากกว่าที่ผ่านมา" นายวิกเตอร์ กล่าว
ทั้งนี้กลุ่มธนาคารยูโอบีในประเทศสิงคโปร์มีศูนย์ธุรกิจกว่า 100 แห่ง และทีมลูกค้าสัมพันธ์ที่ดูแลกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีโดยเฉพาะ ซึ่งทีมงานดังกล่าวจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกันทั่วภูมิภาค เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ และประสบการณ์กับแต่ละประเทศ ในประเทศไทย ยูโอบีมีสาขากว่า 150 แห่งที่พร้อมให้บริการและประสานงานกับทีมผู้เชี่ยวชาญธุรกิจเอสเอ็มอีระดับภูมิภาคเพื่อสนองตอบความต้องการและช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจขนาดย่อมได้อย่างใกล้ชิด