การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)คาดว่าจะเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนโครงสร้างพื้นฐานกองแรกขนาดราว 2 พันล้านบาท ราวกลางปี 56
นายประสงค์ พูนธเนศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กฟผ.ได้เห็นชอบการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 2 พันล้านบาท และผ่านความเห็นชอบจากกระทรวงพลังงานแล้ว โดยเงินที่ระดมได้เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาเกิจการพลังงานและระบบสายส่ง
ขณะนี้ กฟผ.อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดเพื่อยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ในอีก 2-3 สัปดาห์ และคาดว่าจะเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปได้ในกลางปี 56
"โครงการนี้เป็นเฟสแรกที่จัดตั้งกองทุนฯเพื่อนำไปพัฒนาระบบสายส่ง ยังมีอีกหลายโครงการที่จะระดมเงิน" นายประสงค์ กล่าว
นอกจากนี้มีรัฐวิสาหกิจอีกหลายแห่งมีความสนใจในการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเช่นกัน ประกอบด้วย การประปานครหลวง (กปน.) วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท การท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในการขยายท่าเรือแหลมฉบัง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) วงเงิน 4-5 หมื่นล้านบาท นำไปใช้สร้างเส้นทางมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช
นายประสงค์ กล่าวอีกว่า ต้นทุนการเงินในการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 5-6% เนื่องจากเป็นโครงการที่ไม่มีความเสี่ยง และรัฐวิสาหกิจที่เสนอขายเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีผลกำไร ดังนั้น ถือว่าเป็นการลงทุนทีเหมาะสมและน่าสนใจ มีผลตอบแทนดีกว่าเงินฝาก