นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยในโอกาสเป็นประธานงานวันคล้ายวันสถาปนากรมส่งเสริมสหกรณ์ ครบรอบ 40 ปี และก้าวสู่ทศวรรษที่ 5 ว่า สำหรับทิศทางจากนี้ไปกรมส่งเสริมสหกรณ์จะมุ่งไปที่การเสริมสร้างให้สหกรณ์เข้มแข็งบนพื้นฐานการช่วยเหลือกัน โดยการสร้างเครือข่ายที่เข้มข้นมากขึ้น เมื่อสหกรณ์ด้วยกันเกิดความเดือดร้อน เครือข่ายสหกรณ์ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือโดยไม่แบ่งแยกประเภทสหกรณ์
"การสร้างเครือข่ายสหกรณ์นี้จะนำไปสู่ความเข้มแข็งของสหกรณ์ด้วย ซึ่งในอนาคตอาจมีการปรับเปลี่ยนประเภทสมาชิกสหกรณ์เป็นสหกรณ์เอนกประสงค์ ซึ่งปัจจุบันพบว่า สหกรณ์ที่สร้างเครือข่ายในจังหวัดเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นสหกรณ์ประเภทใดก็สามารถสร้างเป็นเครือข่าย และใช้ความเข้มแข็งเป็นรากฐานทางเศรษฐกิจและสังคมของจังหวัดได้ และหากทุกจังหวัดสามารถสร้างเครือข่ายช่วยเหลือซึ่งกันและกันก็จะส่งผลให้เกิดความเข้มแข็งขึ้นในระบบเศรษฐกิจและสังคมในระดับประเทศได้ในที่สุด"นายณัฐวุฒิ กล่าว
กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินการผลักดันให้การสหกรณ์เป็นวาระแห่งชาติ ผ่าน 5 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 1) สร้างและพัฒนาการเรียนรู้และทักษะการสหกรณ์สู่วิถีชีวิตประชาชนในชาติ ยุทธศาสตร์ที่ 2) สนับสนุนและพัฒนาการรวมกลุ่มของประชาชนด้วยวิธีการสหกรณ์ให้เป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ยุทธศาสตร์ที่ 3) เพิ่มศักยภาพการเชื่อมโยงเครือข่ายและระบบการผลิต การตลาด และการเงินของสหกรณ์
ยุทธศาสตร์ที่ 4) สนับสนุนแผนพัฒนาการสหกรณ์ให้เป็นเครื่องมือในการสร้างความเข้มแข็งของขบวนการสหกรณ์ และ ยุทธศาสตร์ที่ 5) ปฏิรูปโครงสร้างหน่วยงานภาครัฐ ขบวนการสหกรณ์ และปรับปรุงกฏหมายสหกรณ์ให้เอื้อต่อการพัฒนาโดยมุ่งหวังสร้างคนในชาติให้ตระหนัก และเห็นความสำคัญในระบบสหกรณ์ โดยจะผลักดันให้การสหกรณ์เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตและชุมชน และสุดท้ายจะพัฒนาไปสู่กระบวนการที่จะสร้างเครือข่ายหลักในการขับเคลื่อนการสหกรณ์เป็นวาระแห่งชาติ