กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผย ตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐลดลงในเดือนส.ค. เนื่องจากกิจกรรมการก่อสร้างของภาคเอกชนและภาครัฐชะลอตัวลง
รายงานระบุว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในเดือนส.ค. อยู่ที่ 8.371 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี ต่ำกว่าตัวเลขของเดือนก.ค.ที่ระดับ 8.42 แสนล้านดอลลาร์ อยู่ประมาณ 0.6%
การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างที่ลดลงในเดือนส.ค. นั้นเกิดขึ้นตามหลังการลดลง 0.4% ในเดือนก.ค. ถือเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และเมื่อเทียบกับเมื่อหนึ่งปีก่อนพบว่า ตัวเลขเดือนส.ค.ปีนี้ยังสูงกว่า 6.5%
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในเดือนส.ค.นั้น การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของภาคเอกชนอยู่ที่ 5.622 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี ลดลงจากตัวเลขของเดือนก.ค.อยู่ 0.5% ขณะที่การก่อสร้างที่อยู่อาศัยปรับขึ้น 0.9% เมื่อเทียวกับเดือนก่อน ขณะที่การก่อสร้างซึ่งไม่ใช่ที่อยู่อาศัยลดลง 1.7%
ตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐเผชิญกับภาวะผันผวนมาเป็นเวลา 6 ปีภายหลังเกิดวิกฤตทางการเงิน แม้ว่าตัวเลขยอดขายและราคาที่อยู่อาศัยโดยรวมปรับตัวขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ก็ตาม แต่นักเศรษฐศาสตร์หลายคนเชื่อว่าภาคที่อยู่อาศัยยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะฟื้นตัวขึ้นอย่างเต็มที่