นายออลลี เรห์น คณะกรรมาธิการฝ่ายเศรษฐกิจและการเงินของสหภาพยุโรป (อียู) ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า สเปนจะสามารถบรรลุเป้าหมายการลดยอดขาดดุลสาธารณะให้ลงมาอยู่ที่ระดับ 6.3% ภายในสิ้นปี 2555 ซึ่งการแสดงความคิดเห็นในด้านบวกของนายเรห์นมีขึ้นหลังจากที่เขาได้เข้าร่วมประชุมกับนายมาริอาโน ราฮอย นายกรัฐมนตรีสเปนที่กรุงมาดริด
นายเรห์นกล่าวว่า ผลการทดสอบภาวะวิกฤติของธนาคารพาณิชย์ในสเปนซึ่งจัดทำโดยบริษัท โอลิเวอร์ วายแมน ที่ว่าธนาคารสเปนจำเป็นต้องระดมเงินทุนเพิ่มเกือบ 5.93 หมื่นล้านยูโร หรือ 7.63 หมื่นล้านดอลลาร์นั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อยอดขาดดุลของสเปน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าสเปนจะเป็นจะต้องยื่นขอความช่วยเหลือด้านการเงินอย่างเต็มรูปแบบหรือไม่ นายเรห์นตอบว่า "การตัดสินใจดังกล่าวจะต้องมาจากทางยุโรป และขณะนี้มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในประเทศต่างๆของยุโรป" ซึ่งการแสดงความคิดเห็นดังกล่าวถือเป็นการส่งสัญาณถึงความคิดเห็นที่ไม่ลงรอยกันในกลุ่มประเทศสมาชิกยูโรโซนที่ว่า สเปนควรจะได้รับเงินช่วยเหลือหรือไม่
อย่างไรก็ตาม นายเรห์นได้แสดงท่าทีที่ชัดเจนว่า เขาเชื่อว่าสเปนอาจจะต้องขอรับความช่วยเหลือด้านการเงินเช่นเดียวกับไอร์แลนด์ โปรตุเกส กรีซ และไซปรัส
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การเดินทางเยือนสเปนของนายเรห์นมีขึ้นไม่นานหลังจากที่คณะรัฐมนตรีสเปนได้อนุมัติงบประมาณและแผนการปฏิรูปสำหรับปี 2556 ในการประชุมเมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยภายใต้แผนการฉบับใหม่นี้ รัฐบาลจะผ่านร่างกฎหมาย 43 ฉบับเพื่อปฏิรูปเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนข้างหน้า โดยมีเป้าหมายที่จะยุติวิกฤตหนี้สาธารณะในสเปน
แถลงการณ์ของคณะรัฐมนตรีสเปนระบุว่า แผนการดังกล่าวจะช่วยให้สเปนสามารถบรรลุเป้าหมายการลดยอดขาดุลการคลังในปี 2555 และ 2556 ซึ่งจะช่วยให้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสเปนสิ้นสุดลง และจะยังจะช่วยคลี่คลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สาธารณะในยูโรโซนด้วย
ด้านนายกรัฐมนตรีราฮอย ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะลดยอดขาดดุลงบประมาณลงอย่างน้อย 1.8 หมื่นล้านยูโร หรือ 2.31 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีหน้า แม้ว่าประชาชนจำนวนมากได้แสดงความไม่พอใจและออกมาชุมนุมประท้วงที่กลางกรุงมาดริดเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลจะลดงบประมาณการใช้จ่ายก็ตาม