เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐอินเดียน่าเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย โดยเบอร์นันเก้ได้กล่าวปกป้องนโยบายเชิงรุกด้านต่างๆที่เฟดนำมาใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศที่ยังคงอ่อนแอ
ทั้งนี้ เบอร์นันก้กล่าวว่า เฟดจำเป้นต้องฉุดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้ปรับตัวลดลง เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะทำให้อัตราว่างงานลดลงได้ พร้อมกล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำจะช่วยลดยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางด้วยการทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของรัฐบาลปรับตัวลดลง และยังเป็นการกระตุ้นรายได้จากภาษีด้วย
ในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้ เบอร์นันเก้ได้แสดงท่าทีวิตกกังวลต่อการที่สภาคองเกรสของสหรัฐจะใช้กฎหมายเพื่อจะเปิดทางให้มีการทบทวนเรื่องการหารือด้านนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรได้ผ่านร่างกฎหมายเพื่อให้หน่วยงานตรวจสอบของสภาคองเกรสเข้ามาทำการตรวจสอบเฟด ซึ่งรวมถึงการทบทวนการดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟด้วย
เบอร์นันเก้เตือนว่า การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้เฟดเผชิญกับแรงกดดันด้านการเมืองและส่งผลกระทบต่อความเป็นองค์กรอิสระของเฟด
การกล่าวสุนทรพจน์ของเบอร์นันเก้มีขึ้นหลังจากเฟดประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 (QE3) ด้วยการซื้อหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน ในการประชุมครั้งล่าสุด นอกจากนี้ เฟดยังมีมติให้ขยายเวลาการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษออกไปจนถึงกลางปี 2558 จากเดิมที่เคยกำหนดไว้ถึงช่วงกลางปี 2557 อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่า มาตรการเหล่านี้จะไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้ตามเป้าหมาย