องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อรายปีในกลุ่มประเทศสมาชิก 34 ประเทศ มีการขยายตัว 2.0% ในเดือนส.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากอัตรา 1.9% ในเดือนก.ค.
ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมอาหารและพลังงาน ปรับตัวลงที่ 1.6% ในเดือนส.ค. จาก 1.8% ในเดือนก.ค.
อัตราเงินเฟ้อรายปีที่เพิ่มขึ้นในเดือนส.ค.เป็นผลมาจากราคาพลังงานที่พุ่งขึ้นอย่างมาก โดยราคาพลังงานพุ่งขึ้น 3.5% ในเดือนส.ค. หลังจากที่ขยับขึ้น 0.7% ในเดือนก.ค.
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นในประเทศกำลังพัฒนาขนาดใหญ่หลายประเทศ ซึ่งรวมถึงจีน อินเดีย รัสซียและแอฟริกาใต้ และหากแนวโน้มดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ก็จะทำให้มีความเป็นไปได้น้อยลงที่ธนาคารกลางต่างๆจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือดำเนินมาตรการอื่นๆเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
นักวิเคราะห์คาดกันว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมในสัปดาห์นี้ หลังสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือ ยูโรสแตทเปิดเผยเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วว่า เงินเฟ้อในกลุ่มยูโรโซนปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนที่ 2.7% ในเดือนก.ย. จากระดับ 2.6% ในเดือนส.ค.