สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) เปิดเผยถึงภาวะการลงทุนภาคอุตสาหกรรมในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-ก.ย.55) พบว่ามีการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจำนวน 1,583 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 804,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งปี 800,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ จำนวนโครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมในช่วง 9 เดือนของปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 21.6% เมื่อเทียบกับจำนวนโครงการที่ขอรับส่งเสริมในช่วงเดียวกันของปี 2554 ซึ่งมีจำนวน 1,302 โครงการ ขณะที่มูลค่าเงินลงทุนขยายตัว 97% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2554 ซึ่งมีมูลค่า 407,800 ล้านบาท และหากพิจารณาสถิติการขอรับส่งเสริมการลงทุนแบบรายเดือน จะพบว่าโครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในเดือน ก.ย.55 มีมูลค่าเงินลงทุนสูงที่สุดเมื่อเทียบกับเดือนอื่นๆ คือสูงถึง 121,800 ล้านบาท สูงกว่ามูลค่าเงินลงทุนของโครงการที่ขอรับส่งเสริมในเดือน ส.ค.ซึ่งอยู่ที่ 121,000 ล้านบาท
สำหรับอุตสาหกรรมที่มีการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วง 9 เดือนมากที่สุด คือ อุตสาหกรรมบริการ และสาธารณูปโภค จำนวน 415 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 237,400 ล้านบาท รองลงมาเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องจักร และโลหะ มีการยื่นขอรับส่งเสริมจำนวน 397 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 186,500 ล้านบาท ตามด้วยกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ มีจำนวน 255 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 104,800 ล้านบาท ตามด้วย อุตสาหกรรมปิโตรเคมี กระดาษ พลาสติก จำนวน 214 โครงการ มูลค่ารวม 174,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ สถิติการขอรับส่งเสริมการลงทุนทั้งหมดที่สูงกว่า 800,000 ล้านบาท เป็นการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ หรือ Foreign Direct Investment ด้วย โดยในช่วง 9 เดือนของปี 2555 มีโครงการลงทุนจากต่างประเทศยื่นขอรับส่งเสริมจำนวน 1,057 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 433,373 ล้านบาท จำนวนโครงการสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 36% (โครงการลงทุนจากต่างประเทศ 9 เดือนปี 2554 มี 773 โครงการ) ขณะที่มูลค่าเงินลงทุนสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 70% (มูลค่าเงินลงทุนของโครงการลงทุนจากต่างประเทศ 9 เดือนปี 2554 มีมูลค่า 254,556 ล้านบาท)