ดอลลาร์ร่วงลงเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) หลังนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เน้นย้ำการหนุนค่าเงินยูโร และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 12-13 ก.ย.
ค่าเงินยูโรแข็งค่า 0.88% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3018 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2904 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ปรับขึ้น 0.75% สู่ระดับ 1.6195 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6074 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้น 0.03% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 78.480 เยน จากระดับ 78.460 เยน และอ่อนตัวลง 0.86% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9301 ฟรังค์ จากระดับ 0.9382 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียบวกขึ้น 0.30% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0244 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0213 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้น 0.34% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8218 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8190 ดอลลาร์สหรัฐ
อีซีบีตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ และระบุถึงการประเมินเชิงบวกเกี่ยวกับสถานการณ์ของยูโรโซน โดยระบุว่าประเทศต่างๆที่ประสบปัญหามีความคืบหน้าอย่างมากในการปฏิรูปเศรษฐกิจ และระบบการธนาคารก็มีความแข็งแกร่งมากขึ้น
ทางด้านนายดรากิกล่าวว่าอีซีบีพร้อมเริ่มดำเนินการซื้อพันธบัตรรัฐบาลประเทศยูโรโซนอย่างรวดเร็วที่สุดหลังจากที่มีการบรรลุเงื่อนไขต่างๆอย่างครบถ้วน โดยระบุว่าแผนการซื้อพันธบัตรได้ช่วยบรรเทาความตึงเครียดในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และในขณะนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลประเทศต่างๆต้องเดินหน้าดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อปรับลดความไม่สมดุลทั้งในด้านการคลังและเชิงโครงสร้าง
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ หลังจากนายดรากิแสดงความคิดเห็นที่เป็นปัจจัยบวกต่อยูโร และดอลลาร์ยังเผชิญแรงกดดันหลังจากรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของเฟดแสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางมีความเห็นพ้องกันโดยทั่วไปว่าจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อหนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เปราะบาง
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะเพิ่มขึ้นราว 110,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะอยู่ที่ 8.2% ในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ 8.1% ของเดือนส.ค.