ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบยูโรในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) เนื่องจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่ดีเกินคาด ส่งผลให้นักลงทุนหันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากกว่า
เงินยูโรแข็งค่า 0.05% เทียบดอลลาร์ ที่ 1.3023 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3017 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่า 0.35% เทียบดอลลาร์ ที่ 1.6133 ดอลลาร์/ปอนด์ จาก 1.6190 ดอลลาร์/ปอนด์
เงินดอลลาร์แข็งค่า 0.22% เทียบเยน ที่ระดับ 78.640 เยน/ดอลลาร์ จาก 78.470 เยน/ดอลลาร์ แต่อ่อนค่า 0.04% เทียบฟรังก์สวิส ที่ 0.9298 ฟรังก์/ดอลลาร์ จาก 0.9302 ฟรังก์/ดอลลาร์
เงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนลง 0.66% เทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ 1.0170 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จาก 1.0238 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ขณะที่เงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัว 0.55% เทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 0.8165 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จาก 0.8210 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 114,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานลดลงแตะ 7.8% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่เดือนม.ค.2552 หรือต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปีครึ่ง
ตัวเลขจ้างงานที่เพิ่มขึ้นในเดือนก.ย.สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 113,000-115,000 ตำแหน่ง แต่อัตราว่างงานลดลงผิดคาด เนื่องจากนักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 8.2% จาก 8.1% ในเดือนส.ค.
ข้อมูลเศรฐกิจที่แข็งแกร่งมักไม่เป็นผลดีต่อเงินดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์เป็นสกุลเงินที่นักลงทุนซื้อเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ดังนั้นจึงน่าซื้อกว่าเมื่อสภาพเศรษฐกิจไม่สู้ดีนัก การที่สหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานที่สดใสจึงทำให้เงินดอลลาร์อ่อนตัวลงเมื่อเทียบยูโร
อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบเงินเยน เนื่องจากนักลงทุนลังเลที่จะซื้อเงินเยน เพราะกังวลว่าทางการญี่ปุ่นอาจเข้าแทรกแซงเพื่อทำให้เงินเยนอ่อนค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทางการญี่ปุ่นแสดงความกังวลตลอดว่าเงินเยนแข็งค่าเกินไป