นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงรูปแบบโครงสร้างของการสร้างเขื่อนกั้นน้ำของนิคมอุตสาหกรรมบางพลีและนิคมอุตสาหกรรมบางปู ว่า ได้ใช้ Sheet Pile คอนกรีตเป็นส่วนใหญ่ และบางส่วนใช้กำแพงคอนกรีต ความยาวประมาณ 16 เมตรในส่วนของคันดินเดิมได้ทำการปรับปรุงสภาพความแข็งแรง และปูทับด้วย Geotextile นับว่าสร้างความมั่นใจให้กับนิคมอุตสาหกรรมทั้งสองแห่ง ซึ่งปีนี้หากปริมาณและระดับน้ำมีจำนวนเท่ากับปีที่ผ่านมา หรือน้อยกว่า ก็ถือว่าไม่น่าเป็นห่วงอะไร โดยกระทรวงอุตสาหกรรมมั่นใจว่าจะป้องกันนิคมอุตสาหกรรมทั้งสองแห่งจากสถานการณ์น้ำท่วมได้อย่างแน่นอน
สำหรับนิคมอุตสาหกรรมบางพลี มีจำนวนพื้นที่ 1,004 ไร่ มีโรงงานจำนวน 130 โรงงาน นับเป็นมูลค่าการลงทุน 14,000 ล้านบาท มีการว่าจ้างแรงงานจำนวน 25,000 คน ด้านจำนวนเงินประมาณการค่าก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วม แบ่งเป็นมูลค่าก่อสร้างระบบเขื่อน จำนวน 507 ล้านบาท มูลค่าก่อสร้างระบบเฝ้าระวัง จำนวน 45 ล้านบาท มูลค่าระบบฉุกเฉิน จำนวน 39 ล้านบาท ค่าควบคุมงาน จำนวน 10 ล้านบาท ยอดรวมทั้งหมด กว่า 600 ล้านบาท
ด้านนิคมอุตสาหกรรมบางปู มีจำนวนพื้นที่ 5,472 ไร่ มีโรงงานจำนวน 420 โรงงาน นับเป็นมูลค่าการลงทุน 230,595 ล้านบาท มีการว่าจ้างแรงงานจำนวน 65,000 คน จำนวนเงินประมาณการค่าก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วม แบ่งเป็นมูลค่าก่อสร้างระบบเขื่อนจำนวน 865 ล้านบาท มูลค่าก่อสร้างระบบเฝ้าระวังจำนวน 49 ล้านบาท มูลค่าระบบฉุกเฉิน จำนวน 40 ล้านบาท ค่าควบคุมงาน จำนวน 16 ล้านบาท ยอดรวมทั้งหมด กว่า 970 ล้านบาท
ทั้งนี้ นิคมอุตสาหกรรมบางปู มีพื้นที่ 5,400 ไร่ โดยมีลักษณะที่ต้องป้องกันคือเวลาฝนตกต้องเร่งระบายออกจากพื้นที่ โดยขณะนี้มีระบบระบายน้ำ มีเครื่องสูบน้ำ 22 เครื่อง สำรอง 4 เครื่อง มีกำลังสูบทั้งหมด 79,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ส่วนเขื่อนดินภายนอกสูง 1 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง.