นายสมมาตร ยิ่งยวด ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 10 ราชบุรี (สศข.10) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า จากการเกิดอุทกภัยฝนตกหนักมาตลอดเป็นระยะเวลาหลายวัน เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาได้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อผลผลิตภาคเกษตรกรรม ทั้งในส่วนของข้าวและพืชผัก ซึ่งจากการตรวจสอบในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 10 ในจังหวัดกาญจนบุรี นครปฐม และราชบุรี พบว่า มีพื้นที่เสียหายรวมประมาณ 18,900 ไร่
โดยจากการสำรวจข้อมูล (ณ วันที่ 2 ตุลาคม 2555) พบว่า จังหวัดราชบุรี มีพื้นที่ประสบภัย 6 อำเภอ ได้แก่ เมือง บ้านโป่ง บ้านคา สวนผึ้ง โพธาราม และดำเนิน สะดวก รวมพื้นที่ที่คาดว่าเสียหายประมาณ 4,000 ไร่ ซึ่งพืชที่ได้รับผลกระทบจะเป็นข้าวและพืชผัก
จังหวัดกาญจนบุรี มีพื้นที่ประสบภัย 10 อำเภอ ได้แก่ เมืองเลาขวัญ หนองปรือ ห้วยกระเจา บ่อพลอย พนมทวน ท่ามะกา ด่านมะขามเตี้ย และไทรโยค รวมพื้นที่ที่คาดว่าเสียหายประมาณ 8,900 ไร่ โดยพืชที่ได้รับผลกระทบจะเป็นข้าว พืชผัก มันสำปะหลัง และอ้อยโรงงาน
จังหวัดนครปฐม พบว่ามีพื้นที่ประสบภัย 1 อำเภอ ได้แก่ กำแพงแสน รวมพื้นที่ที่คาดว่าเสียหายประมาณ 6,000 ไร่ พืชที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ ข้าว และพืชผัก
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่พายุ “แกมี" เข้ามาอีกระลอก อาจส่งผลกระทบต่อปริมาณผลผลิตของเกษตรกรในพื้นที่ได้รับความเสียหาย และจากสถานการณ์ดังกล่าว คาดว่าจะทำให้ตลาดสินค้าพืชผลทางการเกษตรประสบกับปัญหาขาดแคลนได้ ซึ่งเมื่อปริมาณการผลิตน้อย ย่อมส่งผลให้ราคาสูงขึ้น เนื่องจากเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต กอปรกับในช่วงวันที่ 14 ตุลาคม 2555 จะเริ่มเข้าสู่เทศกาลกินเจ ดังนั้น จึงคาดว่าจะส่งผลให้ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้นด้วยเช่นกัน