นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ได้ชี้แจงรายละเอียดการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี)ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย โดยยืนยันว่ามีสัญญาการขายข้าวจีทูจีจริงกับรัฐบาลของ 4 ประเทศ รวม 6 สัญญา ปริมาณรวม 7.3 ล้านตัน ประกอบด้วย รัฐบาลของประเทศจีน, อินโดนีเซีย, บังคลาเทศ และโกตดิวัวร์ ซึ่งบางสัญญาได้มีการส่งมอบข้าวไปแล้ว และจนถึงสิ้นปีนี้คาดว่าจะส่งมอบข้าวได้รวม 2 ล้านตัน และจะทยอยส่งมอบข้าวได้ครบทั้ง 7.3 ล้านตันภายในสิ้นปีหน้า
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า รัฐบาลจะมีเงินที่ได้จากการระบายข้าวส่งคืนให้แก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)ภายในสิ้นปีนี้ราว 85,000 ล้านบาท ขณะที่จนถึงสิ้นปี 56 คาดว่าจะสามารถคืนเงินให้ ธ.ก.ส.ได้รวมทั้งสิ้น 2.6 แสนล้านบาท
พร้อมระบุว่า จากปริมาณข้าวในสต็อกของรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ได้มีภาระผูกพันจากที่ต้องส่งมอบข้าวจีทูจีจำนวน 7.3 ล้านตันแล้ว ยังมีการขายข้าวให้แก่หน่วยงานราชการอื่นๆ ภายในประเทศ, การเปิดประมูลให้แก่เอกชน รวมทั้งไปใช้จำหน่ายในโครงการธงฟ้ารวมอีก 1 ล้านตัน ซึ่งทำให้ขณะนี้ยังเหลืออยู่ข้าวในสต็อกอีกราว 4 ล้านตันที่ยังไม่มีภาระผูกพัน
ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของนักวิชาการนิด้าเรื่องนโยบายรับจำนำข้าวขัดต่อรัฐธรรมนูญนั้น รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า เป็นไปตามที่รัฐบาลได้คาดการณ์ไว้แล้วว่าศาลรัฐธรรมนูญจะไม่รับคำร้องของนักวิชาการนิด้าที่ยื่นเรื่องให้ศาลพิจารณาว่านโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เนื่องจากนักวิชาการในฐานะผู้ยื่นคำร้องไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับโครงการรับจำนำข้าว ทั้งนี้รัฐบาลยืนยันจะเดินหน้าทำโครงการนี้ต่อไป เพราะถือว่าชาวนาได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง
อนึ่ง วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งไม่รับคำร้องคัดค้านโครงการรับจำนำข้าวไว้พิจารณา เนื่องจากไม่อยู่ในอำนาจการพิจารณาที่จะยับยั้งหรือยุติโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ประกอบกับผู้ร้อง(นักวิชาการนิด้า)ไม่ใช่บุคคลที่ถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพ