นายกฯ ประชุม 9 กระทรวงสั่งเร่งทำแผนลงทุน-เบิกจ่าย-ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกระตุ้นศก.

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 10, 2012 16:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวภายหลังการประชุมร่วมรัฐมนตรี 9 กระทรวงด้านเศรษฐกิจที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจได้สั่งการให้หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจที่ครอบครองทรัพย์สิน สำรวจทรัพย์สินแต่ละหน่วยงานที่มีครอบครองและจัดทำทะเบียนทรัพย์สิน เพื่อจัดทำเป็นข้อมูลที่ให้องค์กรต่างประเทศไว้พิจารณาในการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศต่อไป เพื่อนำมูลค่าทรัพย์สินมาประเมินเปรียบเทียบกับตัวเลขหนี้สาธารณะ ที่รัฐบาลเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.เงินกู้เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน มูลค่า 2.2 ล้านล้านบาท

อย่างไรก็ตาม นายกิตติรัตน์ กล่าวยืนยันว่า ร่างพ.ร.บ.เงินกู้เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน มูลค่า 2.2 ล้านล้านบาท จะไม่ส่งผลต่อภาระหนี้สาธารณะ เนื่องจากระยะเวลาของกองทุนมีระยะ 7 ปี

"อาจจะส่งผลต่อหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ไม่เกิน 50%" นายกิตติรัตน์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวอาจจะยังเสนอต่อสภาภายในสมัยประชุมนี้ แต่ก็จะเร่งดำเนินการให้ทันในสมัยประชุมครั้งหน้า

นอกจากนี้ ที่ประชุมให้ทุกหน่วยงานเร่งจัดทำแผนการโครงการลงทุนต่างๆ ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ หรือภายในเดือนตุลาคม เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวมีเวลาวางแผนลงทุนงบประมาณปี 2557 โดยจะสามารถเพิ่มเวลาจัดทำงบจาก 6 เดือน เป็น 10 เดือน ซึ่งจะทำให้โครงการลงทุนมีความชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากการเบิกจ่ายลงทุนได้ในปี 2555 เบิกจ่ายเพียง 66% ต่ำกว่าเป้าหมาย 72% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะในปีที่ผ่านมาเกิดปัญหาน้ำท่วมทำให้การจัดทำงบประมาณปี 2556 ล่าช้าไปด้วย ดังนั้นในการจัดทำงบประมาณในปี 2557 ทุกส่วนราชการจะเร่งวางแผนโครงการลงทุนเพื่อให้ทันการเบิกจ่าย โดยคาดว่าในงบประมาณปี 2557 จะขาดดุลงบประมาณ 2.25 แสนล้านบาท ลดลงจากปี 2556 ที่ 3 แสนล้านบาท

ดังนั้น สิ่งสำคัญในการใช้จ่ายงบประมาณขึ้นอยู่กับการเลือกโครงการที่มีความเหมาะสมและถูกต้องเป็นโครงการที่เกิดประโยชน์ต่อประเทศทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยหากมีการดำเนินการอย่างรอบคอบการใช้จ่ายงบประมาณก็จะส่งผลต่อเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และ นายกรัฐมนตรียังได้กำชับให้มีการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินงบประมาณของภาครัฐให้มีประสิทธิภาพและมีความรัดกุม ซึ่งหากโครงการใดที่ล่าช้าที่เกิดจากหน่วยราชการไม่มีความกระตือรือร้นก็ให้มีการพักโครงการนั้นไว้เพื่อนำไปจัดสรรให้ส่วนราชการอื่น รวมทั้งกำชับเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนอำนวยความสะดวกให้ภาคเอกชนที่สนใจลงทุนในประเทศ ให้ได้รับการส่งเสริม รวมถึงการแก้ไขกฏหมายการขออนุญาตจัดตั้งองค์กร บริษัท และการก่อสร้าง รวมถึงเรื่องบุคลากรที่จะได้รับอนุญาตทำงานมีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ