ในวันนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกทั้งหมดรวมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก ก่อนการประชุมประจำปี 2555 ของไอเอ็มเอฟ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีการฟื้นตัวช้ากว้าที่ไอเอ็มเอฟคาดไว้เมื่อเดือนมิ.ย. อันเป็นผลจากความไม่แน่นอนต่างๆ
“ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดจากการประชุมช่วงฤดูใบไม้ผลิก็คือ ไอเอ็มเอฟพบว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว แต่ยังรวมถึงกลุ่มตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชีย" นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟ กล่าวในการแถลงข่าว
ธนาคารกลางบางแห่งในยูโรโซนได้ดำเนินมาตรการที่เหมาะสมด้วยมุมมองในระยะยาว และไอเอ็มเอฟได้รับสัญญาณที่ดีและพิจารณาว่าธนาคารกลางดังกล่าวมีโอกาสที่ดี ขณะที่ความไม่แน่นอนต่างๆในทั่วทุกมุมโลกได้สกัดกั้นการตัดสินใจด้านการลงทุน การสร้างงานและการสร้างมูลค่า
นางลาการ์ดกล่าวว่า กลุ่มตลาดเกิดใหม่ยังมีความท้าทายอยู่มาก ดังนั้น จึงจำเป็นต้องยังคงจับตาดูความผันผวนต่างๆอย่างใกล้ชิดในตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ
สำหรับในอนาคตนั้น ไอเอ็มเอฟแนะว่ามีนโยบายสำคัญ 4 ประการสำหรับประเทศสมาชิกทั้งหมดในการผลักดันเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไป
ประการแรกคือการปฏิรูปภาคการเงินให้เสร็จสิ้นเพื่อนำไปสู่ภาคการเงินที่ปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากไม่มีความคืบหน้ามากนักในช่วงกว่า 5 ปีที่ผ่านมา
ประการที่ 2 ประเทศต่างๆควรจัดการกับหนี้สินที่ระดับสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งมีหนี้สินสูงมาก
ประการที่ 3 เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายต้องเพิ่มการจ้างงานด้วยการสร้างบรรยากาศการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เนื่องจากการว่างงานในกลุ่มคนหนุ่มสาวอยู่ในระดับที่ไม่สามารถยอมรับได้
ประการสุดท้าย สมาชิกทั้งหมดของไอเอ็มเอฟควรเผชิญหน้ากับภาวะไร้สมดุลของเศรษฐกิจโลก ซึ่งเป็นประเด็นที่ได้มีการพูดถึงมาเป็นเวลานาน
ทั้งนี้ นางลาการ์ดกล่าวว่า การประชุมประจำปีของไอเอ็มเอฟอาจกำหนดแบบแผนในวงกว้างสำหรับประเทศสมาชิก และความร่วมมือกันเป็นสิ่งที่จำเป็นมากที่สุด เนื่องจากเศรษฐกิจโลกเป็นเรื่องที่ต้องร่วมมือกัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน