นายอนุภาพ ถิรลาภ นักวิชาการอิสระ ด้านโทรคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ศาลปกครองกลางได้ไต่สวนคู่ความเสร็จเรียบร้อยแล้ว และนัดให้รอฟังคำสั่งในเวลา 15.40 น.ว่าจะรับคำร้องไว้พิจารณาหรือไม่ และจะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่
"ศาลให้รอฟังบ่าย 3 โมง 40 ถ้ารับฟ้องก็จะมีคำสั่งเลย หรืออาจจะยกฟ้องก็ได้" นายอานุภาพ กล่าว
พร้อมกันนั้น นายอนุภาพ ยืนยันว่า ไม่มีเจตนาจะล้มการประมูลคลื่น 3G แต่อย่างใด เพียงแต่เห็นว่าไม่ใช่เรื่องยากหากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) จะเพิ่มกฎเกณฑ์การประมูล 3G ตามที่ตนได้เรียกร้องไป ซึ่งอาจใช้เวลา 2 วันในการดำเนินการปรับแก้ไขและน่าจะเสร็จทันก่อนเริ่มประมูลในวันที่ 16 ต.ค.
การที่ กสทช.ออกมาระบุว่าจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายตนหากทำให้เกิดความเสียหายกับการประมูล 3G ที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น ถือเป็นเรื่องที่น่าเสียใจถ้าเป็นไปในลักษณะข่มขู่ประชาชน โดยเฉพาะกสทช.มีฐานะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐไม่น่าทำเช่นนี้ เพราะเท่ากับไม่ต้องการให้ภาคประชาชนได้มีการตรวจสอบ
ขณะที่นายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการ กสทช.เปิดเผยว่า วันนี้เข้าชี้แจงต่อศาลปกครองกลางถึงกระบวนการเปิดประมูล 3G ว่าเป็นไปอย่างถูกต้องตามขั้นตอนทางกฎหมายทุกอย่าง และเห็นว่าผู้ฟ้องเองก็เข้าใจดีถึงปัญหาทางเทคนิค
พร้อมทั้งชี้ให้ศาลเห็นว่าหากมีการล้มประมูลเกิดขึ้นจะเกิดความเสียหายตามมาอย่างมาก นายสุทธิพล ได้อ้างอิงข้อมูลของหน่วยงานทางวิชาการ เช่น สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ)ว่า จากใน 2 ปีที่ผ่านมาที่ยังไม่สามารถเปิดประมูล 3G ได้นั้นทำให้ต้องสูญเสียโอกาสคิดเป็นมูลค่ากว่า 153,900 ล้านบาท หรือคิดเป็นความเสียหายเฉลี่ยวันละ 210 ล้านบาท
นายสุทธิพล กล่าวว่า คำขอของผู้ฟ้องเท่ากับขอให้ศาลบังคับให้ กสทช.ทำผิดกฎหมาย อีกทั้งผู้ฟ้องไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง แต่ในทางตรงกันข้ามหากโครงการ 3G เดินหน้าต่อได้ จะทำให้ผู้เสียหายกลับได้รับประโยชน์จากการใช้บริการโทรคมนาคมที่ดีขึ้น ดังนั้นจึงมองว่าสิ่งที่ผู้ฟ้องอ้างจึงเป็นการคาดเดาเหตุการณ์ในทางเลวร้ายล่วงหน้า
ทั้งนี้ หากมีการล้มประมูล 3G จริงจะต้องใช้เวลาปรับปรุงหลักเกณฑ์การประกาศสำหรับการประมูล 3G ใหม่ รวมขั้นตอนต่างๆ อีกเป็นเวลาถึง 8 เดือน ซึ่งจะคิดเป็นความเสียหายเพิ่มขึ้นอีก 51,300 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมความเสียหายที่จะต้องนับไปจนถึงคดีสิ้นสุด อย่างไรก็ดี ยังเชื่อมั่นในดุลยพินิจของศาลปกครองกลางสำหรับการตัดสินในครั้งนี้