ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรฟื้นตัว หลัง IMF แนะให้เวลายูโรโซนลดยอดขาดดุล

ข่าวต่างประเทศ Friday October 12, 2012 07:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวว่า ควรจะให้ประเทศยูโรโซนที่ประสบปัญหาหนี้มีเวลามากขึ้นในการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวสามารถชดเชยปัจจัยลบจากข่าวสเปนถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลง 2 ขึ้น

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.47% แตะที่ 1.2934 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.2874 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.22% แตะที่ 1.6038 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6003 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.20% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 78.330 เยน จากระดับ 78.170 เยน และร่วงลง 0.49% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9342 ฟรังค์ จากระดับ 0.9388 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.43% แตะที่ 1.0272 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0228 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้น 0.28% แตะที่ 0.8181 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8158 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากนางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟกล่าวว่า ควรจะให้ประเทศยูโรโซนที่ประสบปัญหาหนี้มีเวลามากขึ้นในการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวสามารถชดเชยปัจจัยลบจากข่าวสเปนถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลง 2 ขึ้น

สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของสเปนลง 2 ขั้น สู่ระดับ BBB- ซึ่งสูงกว่าระดับขยะเพียงขั้นเดียวเท่านั้น โดยเอสแอนด์พีระบุว่า เศรษฐกิจของสเปนอยู่ในภาวะที่ถดถอยรุนแรงและจำกัดทางเลือกด้านนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการจะแก้ไขปัญหาหนี้ภายในประเทศ

นอกจากนี้ เอสแอนด์พียังได้ให้แนวโน้มความน่าเชื่อถือระยะยาวของสเปนเป็น "เชิงลบ" ซึ่งเป็นการเตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสเปนลงอีก หากการสนับสนุนทางการเมืองสำหรับมาตรการปฏิรูปในปัจจุบันได้ลดน้อยลง หรือการสนับสนุนของยูโรโซนไม่ได้ทำให้เกิดความเชื่อมั่นอย่างเพียงพอว่าจะคงต้นทุนการกู้ยืมของรัฐบาลไว้ในระดับที่ยั่งยืน

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลง หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขาดดุลการค้าและบริการของสหรัฐในเดือนส.ค. ขยายตัวขึ้น 4.1% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 4.422 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยเป็นผลมาจากตัวเลขส่งออกที่ลดลงมากกว่ายอดนำเข้า

ทั้งนี้ ยอดนำเข้าสินค้าและบริการของสหรัฐในเดือนส.ค.ลดลง 0.1% มาอยู่ที่ 2.2550 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ขณะที่ยอดส่งออกหดตัว 1.0% แตะ 1.8128 แสนล้านดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ