นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) เห็นชอบการปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเบนซิน 95 เบนซิน 91 และแก๊สโซฮอล์ 95 ลง 0.40 บาท/ลิตร ส่วนน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 มีการชดเชยเพิ่มขึ้น 0.40 บาท/ลิตร และปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซล 0.30 บาท/ลิตร สำหรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
พร้อมกันนี้ ยังมีมติให้ชดเชยอัตราเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 เพิ่มขึ้น 1.40 บาท/ลิตร จากเดิมชดเชย 0.90 บาท/ลิตร เป็น 2.30 บาท/ลิตร ทั้งนี้จะส่งผลให้ราคาขายปลีกของ E20 ต่างจากน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 เพิ่มขึ้นจากเดิม 1 บาท/ลิตร เป็น 2 บาท/ลิตร
โดยราคาใหม่จะเป็นดังนี้ เบนซิน 95 เดิมจัดเก็บ 7.40 บาท/ลิตร ใหม่ 7.00 บาท/ลิตร, เบนซิน 91 เดิมจัดเก็บ 6.10 บาท/ลิตร ใหม่ 5.70 บาท/ลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 เดิมจัดเก็บ 1.70 บาท/ลิตร ใหม่ 1.30 บาท/ลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 เดิมชดเชย 0.60 บาท/ลิตร ใหม่ 1.00 บาท/ลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 เดิมชดเชย 0.90 บาท/ลิตร ใหม่ 2.30 บาท/ลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 เดิมชดเชย 11.80 บาท/ลิตร ใหม่ 11.80 บาท/ลิตร และน้ำมันดีเซลเดิมจัดเก็บ 0.20 บาท/ลิตร ใหม่ชดเชย 0.10 บาท/ลิตร
ทั้งนี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค.55 เป็นต้นไป ซึ่งการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ครั้งนี้จะส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ ติดลบเพิ่มขึ้นจากเดิม 20 ล้านบาท/วัน เป็นติดลบ 40 ล้านบาท/วัน สำหรับฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 7 ต.ค.55 มีฐานะสุทธิติดลบ 18,630 ล้านบาท
นอกจากนี้ ที่ประชุม กบง.ยังได้เห็นชอบการเพิ่มสัดส่วนไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซล โดยมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานปรับเพิ่มสัดส่วนไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลจากเดิมร้อยละ 4 เป็นร้อยละ 5 ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2555 เป็นต้นไป ทั้งนี้เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มดิบล้นตลาด โดยกำหนดกรอบปริมาณน้ำมันปาล์มดิบคงเหลือไม่ต่ำกว่า 2 แสนตัน/เดือน หากเมื่อใดปริมาณน้ำมันปาล์มดิบคงเหลือต่ำกว่า 2 แสนตัน/เดือน ให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องประชุมหารือเพื่อหาทางบริหารจัดการต่อไป