ทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐขอให้จีนกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศและเดินหน้าสู่การใช้นโยบายเงินหยวนตามกลไกตลาด เพื่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
ในแถลงการณ์ซึ่งนำเสนอในที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMFC) ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงโตเกียว วันนี้ นายไกธ์เนอร์ระบุว่า การส่งเสริมความต้องการภายในประเทศให้แข็งแกร่งจะเป็นผลดีต่อจีนและเศรษฐกิจโลก
นอกจากนี้ นายไกธ์เนอร์ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้หลายประเทศกำลังพยายามปรับนโยบายเพื่อกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ ซึ่งเขาชี้ว่า อัตราแลกเปลี่ยนที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ของเอเชีย จะช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้าง ซึ่งถ้อยแถลงนี้ถูกมองว่าพุ่งเป้าไปที่จีน
"เรายังคงสนับสนุนอย่างเต็มที่ให้มีการตรวจสอบนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศสมาชิกไอเอ็มเอฟอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นภารกิจหลักของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ" รมว.คลังสหรัฐกล่าว
ขณะเดียวกันในแถลงการณ์ IMFC ไกธ์เนอร์ยังได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐและจีนว่ามีการพัฒนาไปในเชิงบวก โดยระบุว่า การส่งออกของสหรัฐไปยังจีนเพิ่มขึ้นสองเท่าอันเป็นผลมาจากที่เงินหยวนแข็งค่าขึ้นราว 11% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
รมว.คลังสหรัฐระบุด้วยว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐกับจีนยังลดลงเหลือไม่ถึง 3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศปีที่แล้ว จากระดับ 9% ในปี 2551
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศเมื่อวันศุกร์ว่า สหรัฐตัดสินใจที่จะเลื่อนการเผยแพร่รายงานนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนรอบครึ่งปีเพื่อประเมินความคืบหน้าของการปฏิรูปค่าเงินของประเทศคู่ค้าของสหรัฐไปจนกระทั่งการประชุมรมว.คลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มประเทศ G20 ที่กรุงเม็กซิโกซิตี้ ซึ่งจะเปิดฉากขึ้นในเดือนพ.ย.นี้