นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) วันที่ 17 ต.ค.นี้ กนง. ไม่ควรละเลยประเด็นการดูแลเงินออมของประเทศ และดูแลอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ โดยเฉพาะไม่ควรทำให้ผลตอบแทนอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงติดลบ เนื่องจากจะไม่มีแรงจูงใจให้เกิดการออมในประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นแล้วว่าการเติบโตของสินเชื่อในปัจจุบันมาจากภาคการบริโภคและอุปโภคเป็นหลัก
ปัจจุบันอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 3% ถือว่าไม่มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น เนื่องจากเงินเฟ้อยังทรงตัว แต่หากต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยใช้นโยบายดอกเบี้ยก็สามารถทำได้ โดยสถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนี้ยังขยายตัวได้ตามศักยภาพและยังไม่พบจุดไหนที่อ่อนแอ ส่วนการแข่งขันระดมเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ ถือว่าเป็นคนละเรื่องกับดอกเบี้ยนโยบาย หากธนาคารพาณิชย์ต้องการสภาพคล่องก็จำเป็นต้องระดมเงินฝาก
สำหรับการที่สหรัฐฯ ออกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ 3 (QE3) ส่งผลให้มีเงินทุนไหลเข้าประเทศไทยมากขึ้นและเป็นแรงกดดันต่อการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบายของกนง.หรือไม่ นั้น นายโฆสิต กล่าวว่า QE3 เป็นการดำเนินนโยบายของต่างประเทศ เชื่อว่าไม่มีผลต่อประเทศ ประกับที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้ผ่านการทำ QE1 และ QE2 มาแล้ว ซึ่งในช่วงดังกล่าวก็ไม่ได้มีผลต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย อย่างไรก็ตามเรื่องของเงินไหลเข้าไหลออกเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่หากสามารถบริหารจัดการได้ ก็ไม่น่าวิตกอะไร