สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของสเปน หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลสเปน ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้เมื่อเทียบกับเยน หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขสร้างบ้านที่แข็งแกร่ง
ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.54% แตะที่ 1.3122 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3052 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ขยับขึ้น 0.22% แตะที่ 1.6146 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6110 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.11% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 78.950 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 78.860 เยน และร่วงลง 0.41% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9222 ฟรังค์ จากระดับ 0.9260 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.09% แตะที่ 1.0382 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0270 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.98% แตะที่ระดับ 0.8218 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8138 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์หลังจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ได้ยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลสเปนที่ Baa3 โดยคงแนวโน้มในเชิงลบ มูดีส์ระบุว่า การตัดสินใจยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลสเปนครั้งนี้ สะท้อนถึงความคืบหน้าในเชิงบวกในสเปน รวมทั้งในยูโรโซนนับแต่เดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ มูดี้ส์เชื่อว่าการสนับสนุนของยูโรโซนและธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกอบกับความพยายามของรัฐบาลสเปนเอง น่าจะช่วยให้รัฐบาลสามารถยังคงเข้าถึงตลาดทุนได้ในอัตราที่สมเหตุสมผล หากสเปนมีเวลาในการสร้างเสถียรภาพแก่หนี้สาธารณะในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า
ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 15% สู่ระดับ 872,000 ยูนิต ซึ่งถือว่าขยายตัวเร็วที่สุดในรอบกว่า 4 ปี ส่วนตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ย. ซึ่งบ่งชี้ถึงการก่อสร้างในอนาคต ขยายตัว 11.6% สู่ระดับ 894,000 ยูนิต ส่งสัญญาณว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง