เงินเยนร่วงเทียบดอลล์ จากคาดการณ์แบงก์ชาติญี่ปุ่นใช้มาตรการกระตุ้นศก.

สกุลเงินเยนร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะใช้มาตรการกระตุ้นเศษฐกิจ ซึ่งกระแสคาดการณ์ดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองสกุลเงินเยนซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ขณะที่เงินยูโรอ่อนค่าลงหลังจากนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เรียกร้องให้มอบอำนาจแก่เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านเศรษฐกิจของอียู ในการออกเสียงวีโต้ประเด็นงบประมาณของประเทศสมาชิก

ทั้งนี้ ในเวลา 08.50 น.ตามเวลานิวยอร์กในวันนี้ เงินเยนร่วงลง 0.4% แตะที่ 79.26 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. ขณะที่เงินยูโรร่วงลง 0.1% แตะที่ 1.3104 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินเยนอ่อนค่าลงหลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยเมื่อไม่นานมานี้ ญี่ปุ่นได้ปรับทบทวนผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.เป็น หดตัวลง 1.6% จากเดือนก.ค. จากก่อนหน้านี้ที่ประมาณการว่าหดตัวลง 1.3% ขณะที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) เตือนว่า คุณภาพความน่าเชื่อถือของประเทศญี่ปุ่นยังคงลดลงอย่างช้าๆ แม้ว่ารัฐสภาญี่ปุ่นได้ผ่านร่างกฎหมายการขึ้นภาษีการบริโภคทั่วประเทศก็ตาม

ทั้งนี้ S&P ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของประเทศญี่ปุ่นไว้เท่าเดิมที่ AA- ซึ่งเป็นระดับสูงสุดขั้นที่ 4 และยังคงให้แนวโน้มเป็น "เชิงลบ"

ส่วนสกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้ออกมาเรียกร้องให้มีการรวมตัวกันมากขึ้นในสหภาพยุโรป (อียู) ด้วยการมอบอำนาจแก่เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านเศรษฐกิจของอียูในการออกเสียงวีโต้ประเด็นงบประมาณของประเทศสมาชิก

แมร์เคลกล่าวต่อสภาล่างของเยอรมนี (Bundestag) เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่การประชุมสุดยอดผู้นำจาก 27 ประเทศของอียูจะเริ่มขึ้นที่กรุงบรัสเซลส์ว่า คณะกรรมาธิการด้านเศรษฐกิจของอียูควรมีสิทธิอำนาจในการประกาศให้งบประมาณ "เป็นโมฆะ" ซึ่งการแสดงความคิดเห็นของแมร์เคลเป็นไปในทิศทางเดียวกับนายโวล์ฟกัง ชอยเบิล รมว.คลังเยอรมนีซึ่งเสนอมาตรการปฏิรูปอียู รวมถึงการอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการเงินของอียูมีสิทธิออกเสียงวีโต้ในประเด็นงบประมาณของประเทศสมาชิก