น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (คกพ.อ) ให้สัมภาษณ์ทางสถานีวิทยุเช้านี้ว่า คณะกรรมการฯ ทำหนังสือถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) หลังจากได้ส่งหนังสือไปยังคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)แล้ว เพื่อแจ้งความเห็นถึงการประมูล 3จี ที่อาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542(พ.ร.บ.ฮั้วฯ) แม้จะยอมรับว่าคณะกรรมการชุดนี้ไม่มีอำนาจสั่ง กสทช.ให้ดำเนินการใดๆ แต่ก็สามารถแจ้งให้พิจารณาพฤติกรรม
คณะกรรมการฯ เห็นว่าการประมูลครั้งนี้ทำให้รัฐเสียประโยชน์ โดยเฉพาะประเด็นที่กำหนดราคาเริ่มต้นประมูลต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เนื่องจากผลศึกษาของจุฬาฯ เสนอมูลค่าใบอนุญาตไม่ต่ำกว่า 6 พันล้านบาทต่อ 1 สล๊อต แต่ กสทช.กลับกำหนดเพียง 4.5 พันล้านบาท ทำให้เงินที่ต้องนำส่งเข้ากระทรวงการคลังอยู่ที่เพียง 41,625 ล้านบาท ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ยาก
"ถ้าเป็นกิจการลูกผีลูกคน จะกำหนดราคาเริ่มต้นต่ำก็ไม่เป็นไร แต่กิจการดาวรุ่งทำอย่างนั้นไม่ได้ ธุรกิจนี้มีมูลค่ามหาศาล"น.ส.สุภา กล่าว
นอกจากนั้น การกำหนดจำนวนใบอนุญาตเท่ากับผู้เข้าประมูล ถือว่าไม่เป็นการสร้างแรงจูงใจให้มีการเสนอราคาประมูล ถือว่าผิดหลักการของ e-Auction อย่างชัดเจน เพราะหลักการที่ควรจะเป็นนั้นคือการกำหนดจำนวนใบอนุญาตให้น้อยกว่าจำนวนผู้เข้าประมูล และระหว่างการประมูลเห็นได้ชัดว่าไม่มีการเสนอราคาแข่งกันเป็นเวลานานในชั่วโมงการประมูล
"เราคงข้ามไปสั่ง กสทช.ไม่ได้ เราก็บอกให้พิจารณาพฤติกรรม...ในเยอรมัน ราคาประมูลใบอนุญาต 3 จี ได้เงินใบละ 5 หมื่นล้านบาท ของเราได้เงินแค่นี้ ยากที่จะยอมรับ"น.ส.สุภา กล่าว