สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือสเปน
ยูโรอ่อนตัวลง 0.35% แตะที่ 1.3019 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3065 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ปอนด์ลดลง 0.24% แตะที่ 1.6004 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6043 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์เพิ่มขึ้น 0.08% เมื่อเทียบกับเยน แตะที่ 79.300 เยน จากระดับ 79.240 เยน และเพิ่มขึ้น 0.42% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิส แตะที่ระดับ 0.9285 ฟรังค์ จากระดับ 0.9246 ฟรังค์
ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลง 0.42% แตะที่ 1.0321 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0365 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์นิวซีแลนด์ลดลง 0.33% แตะที่ 0.8154 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8181 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินยูโรร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการให้ความช่วยเหลือสเปน โดยมีการคาดการณ์ว่าที่ประชุมสุดยอดสหภาพยุโรปจะยังไม่สามารถให้ความกระจ่างเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สเปนได้
ด้านนายกรัฐมนตรีมาเรียโน ราฮอย ของสเปน กล่าวว่า สเปนไม่ได้รู้สึกถูกกดดันที่จะต้องขอความช่วยเหลือทางการเงิน ซึ่งความเคลื่อนไหวส่งผลให้ตลาดเกิดความวิตกกังวลว่าวิกฤตหนี้จะยังคงยืดเยื้อต่อไปอีก
สำหรับความคืบหน้าของการประชุมผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) นั้น นายเฮอร์มาน ฟาน รอมปาย ประธานสภายุโรป เปิดเผยว่า บรรดาผู้นำของอียูเห็นพ้องกันในการจัดทำกรอบการทำงานทางกฎหมายสำหรับหน่วยงานกำกับดูแลระบบการธนาคารของภูมิภาคให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 1 ม.ค.2556 และคาดว่าจะระบบดังกล่าวจะดำเนินการในปี 2556
ส่วนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรปและยอดขายบ้านมือสองที่ร่วงลงของสหรัฐ ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย.ปรับตัวลดลง 1.7% แตะ 4.75 ล้านยูนิตต่อปี