นายสุทัศน์ เลิศมโนรัตน์ ประธานหอการค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ภาคเอกชนเตรียมเสนอแผนพัฒนาเศรษฐกิจการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐเอกชน (กรอ.) ซึ่งจะมีการประชุมในช่วงเย็นวันพรุ่งนี้ (21 ต.ค.) ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะนั่งเป็นประธานในที่ประชุม
สำหรับแผนการพัฒนาของภาคเอกชน จะมีรายละเอียดแบ่งเป็น 4 เรื่องสำคัญ ประกอบด้วย การพัฒนาระบบคมนาคม เพื่อประโยชน์ด้านการขนส่ง และการท่องเที่ยว ซึ่งในแผนดังกล่าว จะมีโครงการเสนอแผนการลงทุนก่อสร้าง ระบบรถไฟฟ้ารางเบา หรือโมโนเรล รอบเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระยะทาง 52 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้งบประมาณลงทุนประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยนอกจากระบบรางแล้ว จะเสนอให้มีการก่อสร้าง สถานีเพื่อการท่องเที่ยว โดยจะมีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น หาดเฉวง หาดละไม หาดหน้าทอน บ่อพุด
“การก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเบานี้ นอกจากจะเกิดประโยชน์ช่วยพานักท่องเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยวได้โดยสะดวกแล้ว ยังเป็นการแก้ปัญหาการจราจรบนเกาะสมุย ที่จะติดขัดในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ซึ่งเมื่อการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้ารอบเกาะเสร็จ ก็จะทำให้นักท่องเที่ยว ลดความจำเป็นในการนำรถยนต์ข้ามมาใช้เป็นยานพาหนะบนเกาะ ก็จะทำให้ปัญหาการจราจรลดน้อยลง“ นายสุทัศน์ กล่าว
นอกจากนี้ ภาคเอกชนจะเสนอแผนในการพัฒนาเส้นทางถนน สายสำคัญ เพื่อประโยชน์ด้านการท่องเที่ยว และโลจิสติกส์ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ เช่น ขอให้มีการขยายถนนเลียบชายฝั่งอ่าวไทย หรือถนนหลวงสาย 41 จากจังหวัดชุมพร-สุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช ซึ่งยังมีบางช่วงที่เป็นถนน 2 เลน การเสนอโครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกเพื่อการขนส่งสินค้า 3 จังหวัดฝั่งอ่าวไทย ที่จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช เพื่อรองรับการเชื่อมต่อการขนส่งกับจีน และประเทศในภูมิภาครองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน รวมถึงการขยายศักยภาพของเส้นทางถนนที่จะเชื่อมระหว่าง 2 ชายฝั่งทะเล อ่าวไทยและอันดามัน
ทั้งนี้ ยังมีข้อเสนอให้รัฐบาลส่งเสริมการพัฒนาพืชเศรษฐกิจ เช่น ยาง และปาล์มน้ำมัน โดยขอให้รัฐบาลดูแลให้ผลผลิตมีเสถียรภาพ โดยปัจจุบันไทยได้มีการเจรจาข้อตกลงในการดูแลการเคลื่อนไหวของราคายางพารา ร่วมกับมาเลเซีย และอินโดนีเซีย ซึ่งในข้อเท็จจริง ไทยสามารถเจรจาความร่วมมือในการดูแลเสียรภาพด้านราคายาง กับ 8 ประเทศในภูมิภาค ซึ่งก็จะทำให้ราคายางมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ จะมีการเสนอแผนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่การเกษตร และแหล่งท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัด และสุดท้ายคือการขอให้มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่าง 2 ชายฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน โดยขอให้มีการตั้งคณะกรรมการร่วมด้านการท่องเที่ยว 2 ชายฝั่งทะเลขึ้น เพื่อให้แผนการทำงานเห็นผลเป็นรูปธรรม