สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ต.ค.) หลังจากต้นทุนการกู้ยืมของสเปนปรับตัวสูงขึ้น ภายหลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ได้ปรับลดความน่าเชื่อถือของแคว้นต่างๆ 5 แคว้นในสเปน ขณะที่ตลาดจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซน
ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.61% แตะที่ 1.2979 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3059 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง 0.39% แตะที่ 1.5949 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6012 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.13% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 79.840 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 79.940 เยน และพุ่งขึ้น 0.59% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9325 ฟรังค์ จากระดับ 0.9270 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.58% แตะที่ 1.0260 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.0320 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.69% แตะที่ 0.8118 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8174 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินยูโรร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเรื่องหนี้ยุโรป หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสเปนประเภทอายุ 10 ปีอยู่ที่ 5.623% ในวันอังคาร โดยปรับขึ้นจาก 5.508 % ของวันจันทร์ ภายหลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ได้ปรับลดความน่าเชื่อถือของแคว้นต่างๆ 5 แคว้นในสเปน ในขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคการผลิตฝรั่งเศสปรับตัวลดลง
นักลงทุนจับตาดูรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศในยุโรปในช่วงเย็นวันนี้ตามเวลาไทย โดยฝรั่งเศส เยอรมนี และกลุ่มอียูจะเปิดเผยดัชนี PMI เบื้องต้นเดือนต.ค. ขณะที่อิตาลีจะเปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในคืนวันนี้ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะยังไม่มีการดำเนินมาตรการใดๆ หลังจากที่ได้ตัดสินใจประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 (QE3) ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน ในการประชุมเมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา