สำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป (อียู) หรือ ยูโรสแตท เปิดเผยว่า หนี้สินของรัฐบาลในยูโรโซนเพิ่มขึ้นแตะ 90% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เมื่อสิ้นไตรมาส 2 ของปีนี้ เทียบกับ 88.2% ในไตรมาสแรก
ในกลุ่ม 27 ประเทศสมาชิกอียูนั้น สัดส่วนหนี้ต่อจีดีพีเมื่อสิ้นไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นจาก 83.5% ในไตรมาสแรก เป็น 84.9%
กรีซเป็นประเทศที่มีสัดส่วนหนี้ต่อจีดีพีสูงสุดที่ 150.3% ตามมาด้วยอิตาลี 126.1%, โปรตุเกส 117.5% และไอร์แลนด์ 111.5%
เมื่อเทียบรายไตรมาส ทั้ง 4 ประเทศดังกล่าวมีสัดส่วนหนี้สินต่อจีดีพีเพิ่มขึ้นจาก 132.4%, 123.3 %, 111.7% และ 108.5% ตามลำดับ ณ ช่วงสิ้นไตรมาสแรก
ยูโรสแตทระบุว่า เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปี 2555 ประเทศสมาชิกอียู 20 ประเทศมีระดับหนี้สินเพิ่มขึ้น ณ ช่วงสิ้นไตรมาส 2 ปี 2555 ขณะที่ 6 ประเทศมีหนี้สินลดลง และ 1 ประเทศมีหนี้สินคงเดิม
นอกจากนี้ ข้อมูลยังแสดงให้เห็นว่า เอสโตเนีย บัลแกเรียและลักเซมเบิร์ก มีระดับหนี้สินต่ำสุดที่ 7.3%, 16.5% และ 20.9% ตามลำดับ
ยูโรสแตทเปิดเผยว่า เมื่อพิจารณาในแง่รูปแบบของหนี้สินนั้น หลักทรัพย์ ที่ยกเว้นหุ้น มีสัดส่วน 78.6% ของหนี้สินทั้งหมดของยูโรโซน ณ สิ้นไตรมาส 2 ปีนี้ ขณะที่เงินกู้คิดเป็นสัดส่วน 18.6% ของหนี้สินทั้งหมดของยูโรโซน สำนักข่าวซินหัวรายงาน