สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) หลังจากมาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการและภาคการผลิตของยูโรโซนหดตัวลงในเดือนต.ค. ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของยูโรโซน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 7.8 ดอลลาร์ หรือ 0.46% ปิดที่ 1,701.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 31.62 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 17.30 เซนต์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,562.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 12.90 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมเดือนธ.ค.ปิดที่ 592.75 ดอลลาร์/ออนซ์ ปรับตัวลง 1.10 ดอลลาร์
สัญญาทองคำร่วงลงหลังจากมาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นรวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนปรับตัวลงที่ 45.8 ในเดือนต.ค. จาก 46.1 ในเดือนก.ย.
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตลดลงแตะ 45.3 ในเดือนต.ค. จาก 46.1 ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการขยับขึ้นเล็กน้อยแตะ 46.2 จาก 46.1 ในเดือนก.ย. และเพิ่มขึ้นจากระดับ 45.1 ในเดือนส.ค. โดยดัชนี PMI เบื้องต้นของยูโรโซนในเดือนต.ค.ยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวต่อเนื่อง และแตะระดับต่ำสุดนับแต่กลางปี 2552
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ (dollar index) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ พุ่งขึ้นแตะระดับ 79.997 จุดเมื่อวานนี้ จากวันอังคารที่ระดับ 79.922 จุด ซึ่งการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐถือเป็นปัจจัยลบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เพราะจะทำให้มูลค่าของสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์มีราคาแพงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น