สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรและเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ประกาศใช้มาตรการใหม่ๆในการประชุมเมื่อวานนี้ เพียงแต่ยังคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินที่ประกาศใช้ในปัจจุบันเอาไว้เท่านั้น
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.12% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.2970 ยูโร จากระดับของวันอังคารที่ 1.2985 ยูโร และอ่อนลง 0.09% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 79.770 เยน จากระดับ 79.840 เยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้น 0.02% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9325 ฟรังค์ จากระดับ 0.9323 ฟรังค์ แต่ร่วงลง 0.57% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ระดับ 1.6042 ปอนด์ จากระดับ 1.5951 ปอนด์
สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังจากเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0 - 0.25 % ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ (24 ต.ค.) พร้อมกับย้ำว่าจะยังคงเดินหน้าใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษซึ่งได้มีการบังคับใช้ในปัจจุบันต่อไป เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจและลดอัตราว่างงานซึ่งยังอยู่ในระดับที่สูงมาก
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเป็นปัจจัยหนุนสกุลเงินดอลลาร์ เนื่องจากเฟดไม่ได้ประกาศแผนการใหม่ๆในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
แถลงการณ์ภายหลังการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ระบุว่า คณะกรรมการเอฟโอเอ็มซียังคงกังวลว่า หากไม่มีการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายแล้ว เศรษฐกิจอาจจะไม่สามารถขยายตัวได้แข็งแกรงพอที่จะทำให้สภาวะในตลาดแรงงานฟื้นตัวดีขึ้น นอกจากนี้ ภาวะตึงตัวในตลาดการเงินทั่วโลกยังอาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับความเสี่ยงขาลง คณะกรรมการจึงมีมติว่าจะยังคงดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 (QE3) ต่อไป ด้วยการเข้าซื้อหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนอง (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ทุกเดือน จนกว่าแนวโน้มในตลาดแรงงานจะส่งสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้น
ส่วนสกุลเงินยูโรอ่อนแรงลงหลังจากมาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นรวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนปรับตัวลงที่ 45.8 ในเดือนต.ค. จาก 46.1 ในเดือนก.ย.
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตลดลงแตะ 45.3 ในเดือนต.ค. จาก 46.1 ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการขยับขึ้นเล็กน้อยแตะ 46.2 จาก 46.1 ในเดือนก.ย. และเพิ่มขึ้นจากระดับ 45.1 ในเดือนส.ค.