ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทหลายแห่ง รวมถึงยูนิลีเวอร์ และซาโนฟี นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากจีดีพีไตรมาส 3 ของอังกฤษ และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดของสหรัฐ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.3% ปิดที่ 270.23 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,200.23 จุด เพิ่มขึ้น 7.38 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 3,411.53 จุด ลดลง 14.96 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 5,805.05 จุด เพิ่มขึ้น 0.27 จุด
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส รวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลง และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากตลาดยังขาดแรงจูงใจใหม่ๆที่จะกระตุ้นแรงซื้อ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับขึ้น 26.34 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 13,103.68 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 4.22 จุด หรือ 0.30% ปิดที่ 1,412.97 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 4.42 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 2,986.12 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลง และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ หรือ 0.37% ปิดที่ 86.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 64 เซนต์ หรือ 0.59% ปิดที่ 108.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่าจะยังคงเดินหน้าใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจและหนุนตลาดแรงงานให้ฟื้นตัวดีขึ้น
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 11.4 ดอลลาร์ หรือ 0.67% ปิดที่ 1,713 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 45.8 เซนต์ หรือ 1.45% ปิดที่ 32.078 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1569.60 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 6.90 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมเดือนธ.ค.ปิดที่ 604.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 11.75 ดอลลาร์
-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อเทียบกับเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมในการประชุมสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ สกุลเงินดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.65% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 80.320 เยน จากระดับ 79.800 เยน และดีดตัวขึ้น 0.29% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9347 ฟรังค์ จากระดับ 0.9320 ฟรังค์
ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.25% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ระดับ 1.2938 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2971 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.54% แตะที่ 1.6122 ดอลลาร์ จากระดับ 1.6036 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับขึ้น 0.01% แตะที่ 1.0354 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0353 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.23% แตะที่ระดับ 0.8184 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8203 ดอลลาร์สหรัฐ
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายใน ประเทศ (จีดีพี) ที่แข็งแกร่งของอังกฤษ
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ขยับขึ้น 0.27 จุด ปิดที่ 5,805.05 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,802.22-5,840.57 จุด