นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมระหว่างกรมการบินพลเรือน (บพ.) และผู้ประกอบการสายการบินเช่าเหมาลำว่า กระทรวงคมนาคมจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงสายการบินพีซีแอร์กรณีปัญหาทิ้งผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานอินชอน โดยให้ได้ข้อสรุปภายใน 7 วัน
ด้านนายวรเดช หาญประเสริฐ อธิบดีกรมการบินพลเรือน กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีคำสั่งให้สายการบินพีซีแอร์ หยุดให้บริการไปจนถึงสิ้นเดือนต.ค.นี้ เพื่อรอผลการตรวจสอบใน 2 ประเด็น คือ การแก้ปัญหาเรื่องหนี้สินค่าน้ำมัน จำนวน 10 ล้านบาทให้กับบริษัท แจชิน และการเยียวยาผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากการหยุดให้บริการ ที่สำคัญสายการบินพีซี.แอร์จะต้องทำแผนธุรกิจเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้โดยสารมาเสนอให้พบ.พิจารณา คาดว่าจะได้ความชัดเจนภายในสัปดาห์หน้า
ส่วนมาตารการที่ บพ.จะใช้ควบคุมสายการบินเช่าเหมาลำ คือ ให้สายการบินเช่าเหมาลำมีเงินค้ำประกันจำนวนหนึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาตัวเลขที่เหมาะสมสำหรับสายการบินขนาดเล็กและใหญ่ เพื่อใช้เป็นเงินสำรองสำหรับช่วยเหลือผู้โดยสารหากสายการบินหยุดทำการบินกะทันหัน รวมทั้งให้สายการบินส่งแผนสำรองกรณีที่ไม่สามารถทำการบินได้ โดยให้ส่งภายในสัปดาห์หน้า ขณะเดียวกันจะออกเงื่อนไขท้ายใบอนุญาตให้สายการบินต้องดูแลผู้โดยสารหากเกิดปัญหาเที่ยวบินล่าช้าหรือไม่สามารถทำการบินได้ ต้องจัดหาอาหาร เครื่องดื่ม ที่พัก และคืนตั๋วโดยสาร ลักษณะเดียวกับเที่ยวบินประจำ
“ยอมรับว่าธุรกิจการบินแบบเช่าเหมาลำเปลี่ยนแปลงไปมาก กฎระเบียบของกรมฯอาจดูแลไม่ครอบคลุม ดังนั้นกรมฯจะได้เร่งพิจารณาหลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตใหม่โดยอาจต้องกำหนดให้สายการบินมีเครื่องบินอย่างน้อย 2-3 ลำ ไม่ใช่ 1 ลำเหมือนในอดีต รวมทั้งจะต้องตั้งคณะกรรมการพิจารณาออกใบอนุญาตจากเดิมเป็นอำนาจของอธิบดีเพียงอย่างเดียว" นายวรเดช กล่าว
ด้านพลอากาศตรีธานินทร์ สมิตะพินทุ รองประธานสายการบินพีซีแอร์ กล่าวว่า สายการบินได้เตรียมเอกสารเกี่ยวกับแผนสำรองกรณีที่ไม่สามารถทำการบินได้เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการขอต่อใบอนุญาตประกอบการบินแบบเช่าเหมาลำ และขอใบอนุญาตทำการบินแบบประจำด้วย ตั้งเป้าให้เริ่มทำการบินแบบเช่าเหมาลำได้ตั้งแต่เดือนพ.ย.นี้ ส่วนการทำการบินแบบประจำนั้น หากได้รับอนุญาตก็จะสามารถทำการบินได้ 60 วันหลังจากได้รับอนุญาต