ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบเยนเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) แม้ว่าข้อมูลการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐออกมาในเชิงบวก ขณะที่ผลประกอบการภาคเอกชนที่อ่อนแรงกว่าคาดได้ถ่วงตลาด ส่วนยูโรปรับลงเล็กน้อยเมื่อเทียบดอลลาร์ อันเนื่องมาจากกระแสความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่ลดน้อยลง
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 0.88% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 79.570 เยน จากระดับ 80.280 เยน และอ่อนตัวลง 0.05% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9348 ฟรังค์ จากระดับ 0.9353 ฟรังค์
ค่าเงินยูโรทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2933 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลง 0.16% สู่ระดับ 1.6091 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6116 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดีดขึ้น 0.21% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0366 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0344 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์บวกขึ้น 0.57% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8224 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8177 ดอลลาร์สหรัฐ
เงินเยนดีดตัวขึ้นเทียบดอลลาร์ ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทข้ามชาติหลายราย ซึ่งรวมถึง แอปเปิลและอเมซอน ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาด
ดอลลาร์แข็งค่าเหนือ 80 เยนเมื่อวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์กันมากขึ้นว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะขยายแผนซื้อสินทรัพย์หลังการประชุมนโยบายในวันอังคารที่ 30 ต.ค.นี้
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) สหรัฐขยายตัว 2% ต่อปีในไตรมาส 3 ปี 2555 ซึ่งมากกว่าอัตราขยายตัวที่ระดับ 1.3% ในไตรมาสก่อนหน้า และสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 1.8%
นอกจากนี้ รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนได้รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนต.ค. เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 ปี ที่ 82.6 ซึ่งส่งสัญญาณบวกว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะมีความคืบหน้า
การร่วงลงของยูโรได้ถูกสกัดไว้ เนื่องจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยในวันนี้ว่าสเปนมีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญในการปฏิรูปภาคการเงิน และยังต้องเดินหน้าความพยายามปฏิรูปต่อไป โดยคณะทำงานของไอเอ็มเอฟได้เดินทางเยือนสเปนในระหว่างวันที่ 15-26 ต.ค. เพื่อดำเนินการประเมินอิสระครั้งแรกนับแต่ที่สเปนมีการเพิ่มทุนภาคธนาคาร